จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนแล้วยื่นกระดาษเขียนบังคับข่มขู่ชิงทรัพย์เงินสด 510,000 บาท จากพนักงานธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ สาขาโฮมโปรพระราม 3 กรุงเทพฯ เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 15 ส.ค.2561 หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนของ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พร้อมชุดสืบสวนของ กก.สส.บก.น.5 และ ชุดสืบสวน สน.วัดพระยาไกร ร่วมกันวางแนวการสืบสวนโดยใช้เวลาเพียง 2 วัน จับกุมนายบัญชา เหมือนช้าง อายุ 33 ปี หนุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นผู้ก่อเหตุ
เบื้องหลังการแกะรอยหลังรับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ภายในธนาคาร ชุดสืบสวนสอบถามข้อมูลจากพนักงานธนาคารโดยได้ข้อมูลว่าคนร้ายชายรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 30 ปีสวมหน้ากากอนามัยสวมหมวกแก๊ปสีดำ ใส่เสื้อยืดสีขาวสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินทับ สวมกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าผ้าใบสีดำ
ชุดสืบสวนตัดสินใจเดินดูตามบ้านต่างๆในชุมชนซึ่งมีอยู่กว่า 20 หลังคาเรือน จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยหมายเลขทะเบียนฬทต 695 กรุงเทพมหานคร จึงตรวจสอบพบว่าผู้ครอบครองคือนายบัญชา ตำหนิรูปพรรณคล้ายกับผู้ก่อเหตุ ทำให้ชุดสืบสวนประสานงานเจ้าของบ้านยินยอมให้ความร่วมมือพาตรวจสอบห้องพักของนายบัญชา
ชุดสืบสวนเริ่มมั่นใจว่านายบัญชา น่าจะเป็นคนร้ายจึงเชิญญาติของนายบัญชา ดูภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนและหลังชิงทรัพย์ธนาคาร ซึ่งญาติยืนยันว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายบัญชา ประกอบอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลออกหมายจับ
หลังจากที่นายบัญชา ถูกควบคุมตัวได้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งภายใน ซ.สุขสวัสดิ์ 39 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลางเงินสด 290,000 บาท สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 2 บาท แหวนทองรูปพรรณหนัก 50 สตางค์ และรถจักรยานยนต์คันใหม่ 1 คัน
นายบัญชา ยอมรับสารภาพว่าเคยติดคุกคดียาเสพติด 2 คดี สาเหตุที่ต้องชิงทรัพย์เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้ นำไปซื้อยาเสพติด โดยใช้เวลาดูลาดเลาประมาณ 1 เดือน จึงเลือกที่ธนาคารแห่งนี้เพราะไม่มีคนพลุกพล่าน ไม่มี รปภ. พนักงานธนาคารเป็นผู้หญิง ซึ่งหลังก่อเหตุก็นำเงินไปซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ ซื้อทองรูปพรรณ ส่วนเงินที่เหลือไว้ตั้งตัวเพื่อชวนภรรยาไปขายเสื้อผ้าที่ จ.นครปฐม