นาข้าวกว่า 200,000 ไร่ ใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยืนต้นตาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในแนวที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากพายุฝนหรือลมมรสุม
ทำให้เกิดความแห้งแล้งหนัก หากยังไม่มีฝนมาแช่ต้นข้าว ภายในต้น ก.ย.นี้ ชาวนาไม่ได้เห็นรวงข้าวเหลืองอร่ามแน่นอน
การแก้ปัญหาภัยแล้ง เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ชาวนา
นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกพื้นที่ในจังหวัดสระแก้ว มีฝนตกค่อนข้างดี
ยกเว้นที่ อ.ตาพระยา ทางอำเภอจึงแจ้งทางจังหวัดเพื่อขอความอนุเคราะห์จากกรมฝนหลวง ในการทำฝนเทียมในพื้นที่เหนืออ่างห้วยยางที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อยและนาข้าวของเกษตร
โดยทำเรื่องขอไปตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.61 และกรมฝนหลวงเริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.เป็นต้นมา
ซึ่งทำให้มีฝนตกประมาณ 13 วัน ทำให้ต้นข้าวที่คาดว่าจะเสียหายเริ่มฟื้นตัว แต่ผลผลิตอาจจะไม่ดีเพียงพอ
นายสุรพันธ์ สุวรรณไพบูลย์ หัวหน้าหน่วยบริการฝนหลวง จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า
ภายหลังตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.61 ขณะนี้บินไปทั้งสิ้น 48 เที่ยวบิน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
สามารถทำให้มีฝนตกนอกพื้นที่เขตชลประทานครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 160,000 ไร่
ทำให้นาข้าวในที่ลุ่มเริ่มมีน้ำขังขึ้นมาบ้าง ส่วนในที่ดอน ดินเริ่มมีความชุ่มชื้น ข้าวกำลังตั้งต้นเจริญเติบโต
ถือว่า สถานการณ์น้ำเริ่มดีขึ้นแล้ว หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้วก็จะยังคงเร่งปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตรและเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่แห้งขอดอย่างมากเเม้ในฤดูฝน
รวมทั้งแหล่งเก็บน้ำของเกษตรกรไว้ใช้ทำการเกษตรในฤดูแล้งด้วย
แม้พื้นที่นาใน อ.ตาพระยา จะได้รับน้ำจากฝนเทียมบ้างเเล้ว เเต่ก็เป็นเพียงการฟื้นฟูต้นข้าวได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะข้าวที่ชาวนาหว่าน เพิ่งมีอายุเพียง 1 เดือนกว่าๆเท่านั้น ซึ่งเป็นระยะที่ต้องการน้ำมาแช่ต้นข้าว
เเต่ชาวบ้านก็พากันขอบคุณที่กระตือรือร้นให้การช่วยเหลือ