ไรเดอร์ นัดเคลียร์ คนขับรถเมล์ ส่อเจตนาฆ่า หลังโดนรถเมล์ชน

เคลียร์เดือด!!! ไรเดอร์นัดเคลียร์คนขับรถเมล์ หลังถูกรถเมล์ชน ก่อนลุกมาต่อยกันนัวคายูเทิร์น ถนน กำแพงเพชร 2 จตุจักร

จากเหตุ คนขับรถ ขสมก. สาย 3 ชกต่อยกับไรเดอร์กลางยูเทิร์น ถนน กำแพงเพชร 2 จตุจักร เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565

แม้ทางพนักงานขับรถ ขสมก. จะโดนลงโทษ จากกรมการขนส่งทางบก ต้นสังกัดและตามกฏหมายแล้วก็ตาม

คนขับรถเมล์ โดนคาดโทษ หลังทิ้งรถ ต่อยกับ ไรเดอร์

แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะทาง ไรเดอร์ ที่เป็นคู่กรณี ได้ออกมาเปิดเผยว่า

คนขับรถเมล์ เล่าไม่หมด และเป็นข้อมูลที่ไม่จริง

จึงมีกันนัดเคลียร์กัน เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565

ซึ่งทางไรเดอร์ ติดใจในเรื่องการที่ทางรถเมล์ เบียดรถจักรยานยนต์ของตน จนเสียหลักล้ม ก่อนจะลงมาทำร้ายตามที่เห็นในคลิป ซึ่งมองว่าเป็นเจตนาที่ คนขับรถเมล์ หักรถมาคล้ายจะเหยียบ เข้าข่ายพยายามฆ่า

ซึ่งทางไรเดอร์ ยอมรับว่าได้เขวี้ยงรองเท้าใส่รถเมล์จริง

พร้อมเล่าถึงที่มาก่อนจะเขวี้ยงรองเท้าใส่รถเมล์ ระหว่างที่ตนขับรถจักรยานยนต์มาบนถนนกำแพงเพชร ได้ขับชะลอชิดซ้าย เพราะดูออร์เดอร์ลูกค้าในโทรศัพท์ เพื่อไปรับอาหารแถวสวนจตุจักร

แต่ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงรถประจำทางบีบแตรไล่หลายครั้ง แล้วฝ่ายคนขับรถประจำทางก็ตะโกนต่อว่า แสดงท่าทางที่ไม่สุภาพ รู้สึกโมโห จึงขับรถจักรยานยนต์ตาม พูดโต้ตอบ จนถึงจุดเกิดเหตุ

ซึ่งทาง นายอภิสิทธิ์ คนขับรถโดยสาร ยอมรับว่า เป็นคนต่อว่า ไรเดอร์ก่อนจริง แต่ยืนยันไม่ได้ตั้งใจหักรถชนไรเดอร์

โดย คนขับรถเมล์ บอกว่า ตัวเอง ตะโกนไปต่อว่า ไรเดอร์ก่อน ว่า

“ขับรถแบบนี้ ไม่เห็นผมเหรอ แทรกซ้ายมา เล่นโทรศัพท์ มันอันตราย”

หลังจากนั้นก็ท้ากัน แต่กระเป๋ารถเมล์ ก็มาห้ามให้พอ ไม่อยากให้มีปัญหา ก็เลยขับรถตามเส้นทางต่อ ซึ่งตอนนั้นคู่กรณี ก็ขับออกเลนขวาไป พร้อมชูนิ้วกลางให้ และ ตะโกนด่าบุพการี แซงไป

และเห็นคู่กรณี จอดอยู่ใต้สะพาน ก่อนถึงตึกแดง ก็คิดว่าไม่มีอะไร

แต่พอเปิดประตูรับผู้โดยสาร คู่กรณีก็พูดขึ้นมา

“มึงจะเอายังไง เอาให้จบ มึงลงมา”

ผมก็ยังไม่สนใจ

ไรเดอร์ เล่าต่ออีก

คู่กรณี ก็ยังขับรถตีคู่มา คนขับรถเมล์ บอกว่า ตัวเอง ได้เปิดกระจกหน้าต่าง ตะโกนบอก ไรเดอร์ว่า

“พอเถอะ แยกย้าย ไม่อยากมีเรื่อง”

เขาก็ยังตะโกนกลับมา คนขับรถเมล์ ก็เลยปิดกระจก หลังจากนั้น ก็ได้ยินเสียงดัง ตึ้ม!

ก็เลยหักรถจอด ซึ่งตอนนั้น ไม่เห็นคู่กรณีอยู่ติดกับรถ ลงจากรถ ก็เห็น ไรเดอร์ลุกขึ้นมาจะทำร้าย แล้ว

ไรเดอร์ ยืนยันย้ำอีกว่า

ด้วยความสัจจริง ไม่ได้ตั้งใจที่จะชน

และที่ไม่เบี่ยงซ้ายเพื่อจอดรถ ลงไปดู เพราะตอนนั้น รถติดมาก

“วินาทีที่โดนขว้างใส่รถ ผมต้องลงไปสำรวจทรัพย์สิน ขององค์กร เพราะ ถ้าตามคนทำไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบ ยืนยัน ไม่ได้ตั้งใจชน ผมทำอาชีพนี้มา 10 ปีแล้ว ผมรู้ ชนคนมันเจ็บอยู่แล้ว

ถ้าดูแผลรถผมกับเขา ไม่ได้กินลึก เพราะถ้าตั้งใจเฉี่ยวจริงๆ รถผมต้องกินรถเขาเยอะกว่านี้ ถ้าดูในรูป ก็จะเห็นว่าความเสียหายมันไม่ได้เยอะ

ถ้าตั้งใจชนคน มันถึงขั้นคดีอาญาแน่นอน และทำให้องค์กรเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย มันไม่โอเค”

แต่ ทางเพื่อนของไรเดอร์ โต้ขึ้นมาว่า

“ในห้องการสอบสวน หลังเกิดเหตุ คนขับรถเมล์ สารภาพว่า ตั้งใจที่จะหักชน ซึ่งในบันทึกประจำวัน ตำรวจก็พิมพ์ว่า เขาเจตนาที่จะ ชนรถไรเดอร์”

ด้าน คนขับรถ โต้กลับว่า ในวันให้ปากคำ ก็เล่าเหตุการณ์ ว่า เห็นเขาเขวี้ยงของใส่รถผม แล้วผมก็หักรถไปหา

ไม่ได้บอกว่ามีเจตนา ผมไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ก็ยอมรับผิดในส่วนที่ผมยังใจเย็นไม่พอ

ผมขอโทษด้วยใจจริงเลยครับ มันไม่ได้เสียแค่ผมคนเดียว เพราะมันเสียทั้งองค์กร ทั้งครอบครัวผม และเสียเวลาทุกคน

แต่ การเคลียร์กันครั้งนี้ ไม่เป็นผล

นักข่าวถามไรเดอร์ : จากที่ได้คุยกัน มีความคิดอย่างไรบ้าง

ไรเดอร์ : ผมยังคาใจ ต่างคนต่างพูดคนละมุมมอง มันก็ยังจับมือกันไม่ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันจะดำเนินคดีเอาผิดตามที่ทางตัวเองเห็นว่า เป็นความผิด พยายามฆ่า

ซึ่งจากการตรวจสอบทางคดี ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลการตรวจร่างกายของ ไรเดอร์ ที่แจ้งความต่อคนขับรถเมล์ เพื่อนำมาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

สำหรับเรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์สะท้อน ถึง การมีสติ และการยับยั้งอารมณ์ระหว่างใช้ท้องถนน ที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

คลิปอีจันแนะนำ
ไรเดอร์ไปไม่ถูก “เดี๋ยวผมพาไปเอง”