วันนี้ 1 มี.ค. 67 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้แสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ Ignite Thailand Aviation Hub แผนพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งของภูมิภาค ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางการบินการขนส่งของภูมิภาค จะแบ่งออกเป็น 5 แผนงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผนการระยะสั้นจะมีการปรับปรุงการให้บริการ จะพัฒนาในส่วนขั้นตอนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ไม่ให้ผู้โดยสารต้องรอคิวนานในทุกขั้นตอนของการผ่านเข้าเมือง พัฒนาอุปรกรณ์เครื่องมือ ระบบและเทคโนโลยีต่างๆ ให้มีมาตรฐานและทันสมัย เพิ่มจำนวนการทำงานเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น
ส่วนแผนระยะยาวจะมีการดำเนินงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลัก และ เชาต์เทอร์มินอล ที่เชื่อมต่ออาคารผ่านรถไฟใต้ดิน อำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการเชื่อมต่อเครื่องสำหรับผู้โดยสารในเทอร์มินอลใหม่ ส่วนในเทอร์มินอลหลักก็ยังจะมีการขยายเพิ่มเติม เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของรันเวย์ เมื่อตัวของสนามบินมีการปรับขยายเพื่อรองรับผู้โดยสารที่มากขึ้น รันเวย์ก็จะมีการเพิ่มเพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินจาก 90 ไฟลท์ ต่อชั่วโมง เป็น 120 ไฟลท์ ต่อชั่วโมง
นอกจากคนแล้ว ในแผนที่ 2 คือเรื่องของคาร์โก้ ก็มีความสำคัญเช่นกัน ปัจจุบันมีสินค้าผ่านคลังสินค้าที่สนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 1.2 ล้านตัน สิงคโปร 1.8 ล้านตัน และ ฮ่องกง 3.9 ล้านตัน ทำไม่ประเทศเหล่านี้ เล็กกว่าเรา แต่เขากลับมีจำนวนสินค้าผ่านได้มากขนาดนี้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเพื่อไปยังจุดนั้นให้ได้ ทั้งการปรับปรุงในเรื่องของคลังสินค้าที่สามารถควบคุมอุณหภูมิเพื่อรองรับการจัดเก็บอาหารสด หรืออาหารที่ต้องเก็บรักษาเป็นอย่างดี ตอนนี้เรามีคลังสินค้า SAT-1 ส่วน SAT-2 ยังไม่ได้สร้าง โดยเราตั้งเป้าที่จะมุ่งเน้นอุตสาหกรรมการส่งออก
ส่วนแผนที่ 3 การปรับปรุงสนามบินดอนเมือง ที่เป็นอีกหนึ่งสนามบินที่มีความสำคัญ ซึ่งเราก็จะมีการขยายขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น จากเดิม 30 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 50 ล้านคนต่อปี แน่นอนว่าเมื่อคนเพิ่มร้านค้าที่อยู่ภายในก็ต้องมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราจะมีการนำสินค้า OTOP มาวางจำหน่ายด้วย นอกจากในส่วนของที่จอดรถ ใครไปสนามบินดอนเมืองก็จะรู้ว่าต้องไปก่อนเวลาเสมอ ซึ่งเราจะมีการขยายเพิ่มพื้นที่จอดรถโดยขยายเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า และจะมีการย้ายรถของพนักงาน AOT ให้ไปจอดที่อาคารของการบินไทย นอกจากนี้จะมีการปรับปรุงการรองรับการจอดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวได้มากยิ่งขึ้น
แผนที่ 4 การปรับปรุงสนามบินนานาชาติทั่วประเทศ เตรียมก่อสร้างสนามบินอันดามัน โดยจะมีการปรับปรุงเส้นทาง คืออาจจะมีการขยายสะพานสารสิน ให้เรือยอร์ชผ่านได้ ในส่วนภาคเหนือ จะมีการสร้างสนามบินล้านนา ซึ่งเป็นสนามบินแห่งใหม่ และจะมีการขยายอาคารผู้โดยสารให้รองรับเพิ่มได้มากขึ้นจากเดิม 8 ล้านคน เป็น 16.5 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ หลังเที่ยงคืน เครื่องบินก็จะไม่สามารถขึ้นลงได้ แต่หลังจากที่เราปลดล็อกตรงจุดนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น แผนดังกล่าวนี้จะมีการยกระดับสนามบินทั่วประเทศ หรือสนามบินเมืองรอง เช่น น่าน ศรีษะเกษ โคราช ทุกภาคจะต้องมีสนามบินนานาชาติหลัก พร้อมพัฒนาให้ไทยเราเป็นครัวโลก ทุกสายการบินจะต้องสั่งอาหารจากเรา
ส่วนแผนที่ 5 แผนสุดท้าย จะมีการปรับปรุง พัฒนาระบบการทำงานภายในสนามบิน ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อผลักกดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางครัวการบิน ศูนย์กลางซ่อมบำรุงอากาศยาน ต่อยอดระบบขนส่งและคลังสินค้าเพื่อการส่งออกทั้งทางอากาศ และทางราง ต่อยอดความร่วมมือระหว่างสายการบิน และโรงแรม ให้มีการออกแพ็คเกจร่วมกัน
นอกนากจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเป้าหมายที่สำคัญ คือ ต้องการให้สนามบินสุวรรณภูมิติดอันดับ 1 ใน 50 ของโลก ภายในระยะเวลา 1 ปี และติด 1 ใน 20 ของโลก ภายในระยะเวลา 5 ปี อีกด้วย เป็นความฝันที่ต้องการให้เป็นจริง วันนี้ผมขอประกาศว่า เราตื่นจากความฝันแล้ว ขอให้ทุกคนตื่นมาร่วมกันพัฒนาให้ความฝันเป็นจริง ทุกคนมีส่วนร่วมทำฝันให้เป็นจริง ขอให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนช่วยดึงศักยภาพ ช่วยกันทำความฝันให้เป็นจริง” นายกฯ กล่าวย้ำ
คลิปอีจันแนะนำ
บทเรียนชีวิต “LGBTQ” กับรักที่โดนหักหลังสู่โรคร้าย “เอดส์”