5 วิธีเอาตัวรอด เมื่อเกิดเหตุ ไฟไหม้รถยนต์ ต้องทำอย่างไร!

5 วิธีเอาตัวรอด จากไฟไหม้รถยนต์ และวิธีป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อครอบครัวและทรัพย์สินต้องทำอย่างไงดี!

อุบัติเหตุจากการขับขี่รถยนต์ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะรุนแรงขนาดไหน แต่ถ้าเกิดเหตุที่ต้องทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์รถยนต์เกิดเพลิงไหม้เชื่อว่าคนทำให้ตกหนกจะทำอะไรไม่ถูกแน่ วันนี้เรามาเตรียมพร้อมรับมือเพื่อเวลาที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เราจะสามารถเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัยหรือบาดเจ็บเสียหายน้อยที่สุดค่ะ

 5 วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้รถยนต์

1.ตั้งสติ 

ทุกสถานการณ์เลวร้ายสิ่งหนึ่งที่พึ่งมีคือสติ ฉะนั้นเราจึงต้องมีความพร้อมรับมือในกรณีที่ไฟไหม้รถลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์ทันที เพราะ ความร้อนสูงเกินไป ประกายไฟฟ้า และควันอาจทำให้เกิดไฟได้อย่างต่อเนื่อง แล้วรีบออกจากรถ และวิ่งออกไปให้ห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุด เพราะอาจเกิดการระเบิดได้ และให้รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 มาควบคุมเพลิงให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง

2. รู้จักสังเกต อาการผิดปกติ

เมื่อได้กลิ่นควันไหม้เฉยๆ ถ้าคุณขับรถอยู่ดีๆ ได้กลิ่นเหม็นไหม้ภายในรถ อย่าชะล่าใจเด็ดขาด! พยายามจอดรถเข้าข้างทาง พร้อมดับเครื่องยนต์ สังเกตชุดสายไฟข้อต่อมีจุดไหนขาดหรือลัดวงจร หรือติดต่อให้ช่างผู้เชียวชาญเข้ามาตรวจสอบ หากรถของคุณเต็มไปด้วยควัน ให้เปิดหน้าต่างเพื่อระบายควันป้องกันไม่ให้คุณหมดสติ อย่างไรก็ตาม ก่อนเปิดหน้าต่าง ให้ระวังเปลวไฟภายในรถ เพราะออกซิเจนอาจทำให้เกิดเปลวไฟได้

3. กรณีไฟไหม้เล็กน้อย

นำรถจอดเข้าข้างทาง ดับเครื่องยนต์ และใช้ถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงให้ดับสนิท  แต่ถ้าคุณเห็นเปลวไฟออกมาจากกระโปรงรถ ให้ปลดสลักฝากระโปรง และฉีดพ่นผ่านทางช่องฝากระโปรงที่แง้มไว้  ห้ามเปิดฝากระโปรงในทันที เพราะทำให้ไฟไหม้ปะทุขึ้นมาจนเกิดอันตราย  เมื่อไฟเริ่มสงบลงแล้ว ให้ใส่ถุงมือก่อน แล้วค่อยๆ เปิดฝากระโปรงขึ้น เพราะฝากระโปรงมีความร้อนสูง ต้องใช้ความระมัดระวัง จากนั้นฉีดพ่นให้ทั่วห้องเครื่องยนต์จนแน่ใจว่าดับสนิท แล้วให้รีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออก เพื่อป้องกันไฟไหม้รถอีกครั้ง ติดต่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบสภาพรถ หลังจากนั้นพยายามอยู่ห่างจากรถให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัย

4. กรณีไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว

ถ้าเกิดกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานกาณ์ได้  ทิ้งสัมภาระเอาชีวิตรอดอันดับแรกออกจากรถอย่างน้อย 30 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีมีการระเบิด  จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 199 หรือหน่วยกู้ภัยทันที

5.ปลดปล่อยตัวเองก่อน แล้วค่อยช่วยผู้อื่น

แม้ว่าคนที่มากับคุณจะสำคัญแค่ไหน แต่การที่ตัวคุณก็ตกที่นั่งอันตรายเช่นกันคุณเองก็คงช่วยผู้อื่นไมได้ ฉะนั้นตัวคุณเองควรเอาตัวรอดปลดปล่อยตัวเองให้หลุดจากอันตรายไห้ได้ซะก่อน อันดับแรกพยายามถอดเข็มขัดนิรภัยออกเพื่อไม่ให้ความร้อนหลอมโลหะหัวเข็มขัดเข้ากับสมอ หากปลดหัวเข็มขัดไม่ได้ ให้ดันสายสะพายไหล่ไว้เหนือศีรษะแล้วลองยกขาออกจากใต้สายคาดเอว พยายามออกจากตัวรถแม้ว่าคุณจะไม่สามารถเปิดประตูด้วยตัวเองได้ แต่การปลดล็อกประตูจะช่วยให้ผู้อื่นหรือหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยให้คุณออกจากรถได้ง่ายขึ้น

วิธีป้องกันเหตุเพลิงไหม้รถยนต์

ก่อนขับรถถ้ารถของคุณมีอายุการใช้งานมานานแล้ว ก็ควรหมั่นตรวจเช็คท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องไม่มีรอยรั่ว ปริ หรือมีรอยน้ำมันรั่วซึมตามข้อท่อน้ำมันไปจนถึงเครื่องยนต์ ไม่มีเศษวัสดุติดในหม้อน้ำและท่อยางต่างๆ รวมไปถึงการสังเกตกลิ่นน้ำมันไปด้วยถ้าหากเป็นรถยนต์ติดแก๊ส LPG ลองสังเกตกลิ่น ว่ามีเข้ามาในห้องโดยสารหรือไม่ ซึ่งถ้ามีคือต้องมีจุดไหนรั่วแน่ หมั่นสังเกตบริเวณวาล์วถังแก๊ส ข้อต่อต่างๆ ของระบบแก๊ส หม้อต้มแก๊ส ท่อยางต่างๆ ว่ามีรอยรั่ว ซึม ปริแตกหรือไม่ หากพบสิ่งต้องสงสัยควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน อีกทั้งควรเตรียมขวดหรือถังน้ำ ถังดับเพลิงเคมีพกพาไว้ที่ด้านข้างคนขับหรือบริเวณที่หยิบได้ง่าย เพื่อให้ใช้งานได้ทันทีหากไฟไหม้รถ

ขณะขับรถ ควรสังเกตสัญญาณเตือนอยู่เสมอ มาตรวัดระดับความร้อนของเครื่องยนต์ซึ่งอยู่บริเวณหน้าปัดรถยนต์ หากหม้อน้ำแห้ง พัดลมระบายความร้อนขัดข้อง จะทำให้รถยนต์ร้อนจัดจนเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ได้ เพราะบริเวณกระโปรงหน้ารถเป็นที่ตั้งของเครื่องยนต์และสายไฟต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดประกายไฟ ส่วนรถยนต์ที่ใช้แก๊สต้องระวังบริเวณส่วนท้ายรถเพราะเป็นที่ตั้งของถังแก๊ส หากรถมีอาการกระตุกขณะขับขี่ควรนำไปตรวจสอบสภาพ เพราะเครื่องยนต์อาจขัดข้องหรือถังน้ำมันรั่ว ทำให้อากาศเข้าไปจนการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ก่อให้เกิดไฟไหม้รถได้

รถไฟไหม้ อาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งถึงแม้ว่าคุณจะหนีออกมาได้สำเร็จ โอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บก็ยังสูงจนน่ากลัว อย่าปล่อยให้พฤติกรรมที่บุ่มบ่าม การละเลยขาดการใส่ใจ เป็นต้นเหตุแห่งความสูบเสีย การเตรียมพร้อมรับมือที่ดีจะทำให้คุณมีสติในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันทวงที อย่าปล่อยให้เรื่องที่ป้องกันได้ต้องทำร้ายชีวิตคุณ หมั่นตรวจสอบความพร้อมในการใช้งานรถยนต์อยู่เสมอ และขับขี่อย่างปลอดภัย

คลิปอีจันแนะนำ
นาทีชีวิต ของผู้รอดชีวิต ไฟไหม้รถตู้โดยสาร