หลายคนคงพอรู้จัก วันโกหก หรือ April Fool’s Day (เมษาหน้าโง่) ในวันที่ 1 เม.ย. ของทุกปี ที่มักนิยมใช้วันนี้ในการแกล้งโกหกกันอย่างสนุกสนาน โดยไม่ถือโทษโกรธกัน แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากวันโกหกแล้ว ยังมีวันพูดความจริงอีก 1 วัน
วันพูดความจริง (Tell the Truth Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ก.ค. ของทุกปี มีขึ้นเพื่อให้ผู้คนแสดงความซื่อสัตย์จริงใจ รวมทั้งปฏิเสธการโกหกต่อกัน โดยเริ่มมีการกำหนดวันพูดความจริงขึ้นมาครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการเมื่อปี 2558 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้วนี่เอง
ซึ่งกิจกรรมในวันพูดความจริงนี้ เป็นวันที่เราจะต้องพูดแต่ความจริงห้ามโกหกกันตลอดทั้งวัน หรือหากบ้านไหนที่มีลูกหลาน ผู้ปกครองมักใช้โอกาสนี้ในการอบรมสั่งสอนเด็กๆ ว่าการโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ดี และสอนให้รู้ถึงประโยชน์ของการพูดความจริง เช่น
1.สร้างความเชื่อใจให้คนรอบข้าง
หากเราพูดแต่ความจริง คนรอบข้างจะไว้ใจและสนิทใจ รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ข้างเรา อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือเวลาที่พูดอะไรทุกคนมักจะเชื่อ แม้มันจะเป็นเรื่องงี่เง่าแค่ไหนก็ตาม
2.ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
การยอมรับความจริงและพูดออกไป อาจส่งผลดีทั้งต่อตัวเราและคนรอบข้างในอนาคตได้ หรือหากไม่ส่งผลดีอะไร อย่างน้อยก็ไม่ย้อนมาทำร้ายเราในอนาคตเหมือนเรื่องโกหก หรือหากมีทำผิดการพูดความจริงให้เร็วที่สุดนั้นอาจจะช่วยทำให้โทษเบาลง และลดความบาดหมางลงได้
3.ไม่มีเรื่องค้างคาใจ
หากเรากล้าที่จะพูดความจริง เราจะไม่มีอะไรให้ค้างคาใจหรือกังวลเหมือนกับการพูดโกหก
ทั้งนี้ ยังเป็นวันที่หลายๆ คนที่เคยมีความลับหรือโกหกปิดบังอะไรกับคนรัก เพื่อน หรือคนในครอบครัว ถือโอกาสใช้วันพิเศษนี้ ในการสารภาพความจริงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้การพูดความจริงนั้นจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงเรื่องที่ทำให้เกิดผลเสียแก่ตนเองและผู้อื่นด้วย อย่าง การพูดเรื่องทำร้ายจิตใจคนอื่น การพูดที่นำภัยเข้าตัว และการพูดในเรื่องที่ควรเป็นความลับ เป็นต้น
ข้อมูลจาก: http://www.cdm-bangkok.com , https://watnanong.ac.th