เมื่อวันที่ 21 พ.ย.64 ที่ผ่านมา มีนักเรียนชายวัย 13 ปี นักเรียนโรงเรียนประจำ ใน อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี หนีออกจากโรงเรียน
ซึ่งได้เบาะแสจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง แจ้งว่า พบเด็กชายทั้งสองคน อยู่แถวไร่ข้าวโพดและไรมันสำปะหลัง ไม่ไกลโรงเรียน แต่ เมื่อถามเด็กทั้งสองคน ว่าจะไปไหน ทั้งสองคนก็วิ่งหนีเข้าป่าไป
ทางโรงเรียน ประสานขอความช่วยเหลือจาก ตำรวจ สภ.หนองม่วง และมูลนิธิ ในอำเภอหนองม่วง ให้ช่วยออกตามหานักเรียน ในบริเวณป่าไร่ข้าวโพด และไร่มันสำปะหลัง ซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ ที่น้องทั้ง 2 คนได้วิ่งหนีเข้าไป
วันที่ 23 พ.ย. เจ้าหน้าที่จำนวนหลายสิบนาย ปูพรมค้นหาเด็กทั้งสองจนทั่ว พบกระเป๋านักเรียน เสื้อผ้า และกล่องขนม ภายในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากโรงเรียน ประมาณ 2 กม.
เจ้าหน้าที่ค้นหาอยู่นาน 2 วัน
จนวันที่ 24 พ.ย. มีชาวบ้าน พบเด็กทั้ง 2 แอบอยู่ใต้ท่อระบายน้ำ บริเวณด้านหน้าโรงเรียนบ้านบ่อทอง ซึ่งห่างจากโรงเรียนประจำที่หนีออกมา ไกลถึง 10 กม.
ชาวบ้านที่พบ เล่าว่า ตนได้ขับรถจักรยานยนต์ ผ่านมาที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านบ่อทอง แสงไฟจากหน้ารถจักรยานยนต์ส่องไปเห็น เด็กสองคนนอนอยู่ในท่อ พอลงไปดูถึงรู้ว่าเป็นเด็กนักเรียนที่หนีออกมา จึงได้เรียกให้ออกมาจากท่อ ทั้งสองก็ยอมออกมาโดยดี
เด็กชายทั้ง 2 คน ปลอดภัยดี แต่อยู่สภาพที่อิดโรย เนื่องจากไม่ได้กินข้าวมา 4 วัน แล้ว เจ้าหน้าที่จึงรีบเอาข้าวให้กิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองม่วง เพื่อตรวจสุขภาพ
จากที่เจ้าหน้าที่ ได้คุยกับ นักเรียนทั้ง 2 คน เด็กเล่าถึงสาเหตุที่หนีออกจากโรงเรียนให้ฟังว่า “ เพราะถูกรุ่นพี่ในโรงเรียนรังแก และสภาพการเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก”
ทั้งสองคน จึงอยากขอกลับไปเรียนที่บ้านเกิดใน จ.อุทัยธานี และ จ.ตาก เพราะกลัวจะถูกรังแกอีก และระหว่างที่อยู่ในโรงเรียนประจำยังได้เขียนระบายความในใจลงในกระดาษ ที่มีข้อความแสดงถึงความอึดอัดใจ
ซึ่งคำพูดของเด็กทั้ง 2 ก็ตรงกับจดหมายน้อย ที่น้องเขียนระบายความในใจ ระหว่างอยู่ในโรงเรียน
“ มาวันแรกๆ ก็เหมือนจะสบายแต่หลังๆ ต้องทำงานหนักมาก ต้องตื่นตอน 05.30 มารดน้ำผัก ขุดแปลง กวาดหอหลายอย่าง ตอน 07.00 – 07.50 อาบน้ำแปรงฟัน ฉี่ แต่งตัวเสร็จก็กินข้าว ตั้งแถวไปเรียน ตอนไปเรียนก็ได้เจอเพื่อนหลายคน มีเพ่อนสนิท 1 คน ชื่อเพชร เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่กักตัวเข้า รร. อยู่ รร. นี้ เจอแต่คนเถื่อนๆ เกเรชอบต่อยเพื่อน แกล้งเพื่อน แต่ส่วนมากก็เจอแต่เพื่อนดีดี ส่วนตัวผมก็อยู่ส่วนของผม ไม่ไปยุ่งกับใคร ก็มีบางทีทำตัวไม่ดี เช่น ดูดยา ขโมยของ หลายอย่าง ที่ผมทำตัวไม่ดี และมีอีกอย่างหนึ่งที่ผมจะบอกว่า ผมคิดถึง ปู่ย่า”
คำบอกเล่า และ จดหมายของเด็กวัย 13 ปี เป็นเรื่องจริงที่น้องเจอหรือไม่ แล้วทางโรงเรียน จะมีการจัดการเรื่องนี้อย่างไร
อีจัน ติดตามต่อค่ะ
คลิปอีจันแนะนำ
ค่ำคืน ทรหด! ช่วยชาวบ้าน หนีตายน้ำป่า @อ.แก่งกระจาน