โผล่ตัวละครใหม่ ต้นเหตุปมปลดครูชัยยศออกจากราชการ

หรือเรื่องนี้จะมีเบื้องลึกกว่านี้? โผล่ 2 ตัวละครใหม่ ที่มีหน้าที่รับเงินงบอาหารกลางวันโดยตรง ต้นเหตุปมปลดครูชัยยศออกจากราชการ

ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกโซเชียล กับเรื่องราวของ ครูชัยยศ สุขต้อ ครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกปลดออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการทุจริตงบประมาณอาหารกลางวัน

เกิดอะไรขึ้น กับ 3 ปีที่ผ่านมา ครูชัยยศ ถูกไล่ออก เพราะ ทำอาหารให้เด็ก

ล่าสุดวันนี้(2 ธ.ค. 66) ที่รายการโหนกระแส นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. และรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ครูชัยยศ สุขต้อ และ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ มาร่วมรายการเพื่อพูดถึงประเด็นที่เกิดขึ้น

โดย นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการฯ รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. และรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าว ป.ป.ช. ไม่ใช่คู่กรณีกับครูชัยยศ ป.ป.ช.เป็นเพียงปลายเหตุ ที่มีผู้ร้องเรียนส่งเอกสารเข้ามาให้ตรวจสอบ เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2561 ถูกร้องมาปี 2562 และ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบปี 2563 และเมื่อเราดูเอกสารแล้วพบว่ามีข้อพิรุธ ในเรื่องของงบประมาณอาหารกลางวัน โดยมีบุคคลเกี่ยวข้อง 4 คนตามรายชื่อที่มีลายเซ็นเกี่ยวข้องกับเอกสารงบประมาณอาหารกลางวัน ก็จึงชี้มูลความผิดว่าการกระทำของคณะ 4 คนนี้เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ส่งสำนวนมติของ ป.ป.ช. ไปที่ต้นสังกัดของครูแต่ละคน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทางต้นสังกัดต่อไป ว่าจะปฏิบัติอย่างไรตามมติ ป.ป.ช. ว่าจะมีการลงโทษอย่างไร ไม่ว่าจะไล่ออกหรือปลดออก

ป.ป.ช. แจง ปมครูชัยยศ ผิดวินัยร้ายแรง ไม่ใช่เรื่องแบ่งข้าว

ส่วนประเด็นเรื่องเงินที่หายไปนั้นหายไปไหน ตรงนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นบุคคลที่ 1 และที่ 2 ก็ไม่สามารถตอบหรือชี้แจงได้ว่าเงินอยู่ไหน พยานบุคคลก็บอกไม่ได้ ดังนั้นเงินก็ตกอยู่ที่บุคคลที่ 1 และที่ 2 ที่เป็นผู้รับเงินและจัดการเงินงบประมาณ

“ในส่วนความน่าเห็นใจของครูชัยยศ ก็ต้องบอกว่าครูเป็นครูที่มีผลงานมากมาย ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นเหตุบรรเทาโทษให้ครู จึงไม่โดนไล่ออกแต่เป็นปลดออก ตอนนี้สำนวนถูกส่งไปที่พนักงานอัยการแล้ว ครูก็ต้องไปพิสูจน์ในชั้นศาลให้ชัดเจน ว่าไม่มีเจตนาหรือไม่เกี่ยวข้องอย่างไร”

ทางด้าน ครูชัยยศ สุขต้อ เผยว่า ความจริงแล้วเรื่องราวดังกล่าวนี้ ที่มาที่ไปคือ มีชาวบ้านร้องเรียนขับไล่ ผอ.โรงเรียน และครูผู้หญิงท่านหนึ่งที่เป็นคนจัดหาจัดซื้อ เรื่องเกี่ยวกับอาหารกลางวันที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตนนั้นก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการตรวจสอบวัตถุดิบอาหารของโรงเรียนด้วย โดยจะมีหนังสือรายการวัตถุดิบที่ผ่านการจัดทำจากครูผู้หญิงที่เป็นคนจัดหาจัดซื้อส่งมาให้ตนเซ็น ตนก็ตรวจสอบและเซ็นไปตามหน้าที่ และจะมีครูอีกคนหนึ่งเซ็นเป็นพยาน

ครูชัยยศ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมา ตนเป็นเพียงครูผู้น้อย เจ้านายสั่งให้รับหน้าที่มอบหมายอะไรก็ต้องทำ แม้จะไม่มีความรู้ด้านธุรการก็ตาม ยืนยันว่าเรื่องงบอาหารกลางวัน ตนไม่เคยเห็นเงิน ไม่เคยรู้ว่าเงินได้มาเท่าไหร่อย่างไร เป็นเพียงคนที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบรายการอาหาร ก็ทำตามหน้าที่เท่านั้น

“สิ่งที่อยากขอ คือขอความเป็นธรรม อยากขอให้พิจารณาใหม่ พิจารณาเจตนา ที่ตนไม่มีเจตนาไม่ดีหรือทุจริตเลย ตอนแรกที่รู้เรื่องก็ช็อก ผมตั้งรับแต่ไม่ยอมรับ เหมือนโดนรังแกโดยที่เราไม่รู้สึกกลัวด้วยซ้ำ ผมถือว่าตัวหนังสือฆ่าคน กฎหมายฆ่าคน เราเป็นครูที่เสียสละมา มันได้รับผลตรงข้ามกับที่ผมทำ”

ขณะที่ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการเผยแพร่กฎหมายสภาทนายความ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้จริงๆ แล้ว อยากให้ครูชัยยศอย่าท้อ และให้สู้ ยืนยัน พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างไร โดยเขียนอธิบายให้ละเอียดพร้อมทั้งส่งเอกสารชี้แจงไปที่พนักงานอัยการ แสดงให้ศาลเห็นว่าเราไม่มีเจตนา ซึ่งความผิดที่ครูชัยยศโดนนั้น เป็นความผิดเอื้อให้ผู้อื่นทุจริต และม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่ง ม.157 มันต้องเป็นเจตนาพิเศษ ว่ามีเจตนาทุจริตจริงหรือไม่ ตนเชื่อว่าครูชัยยศจะต้องได้รับความเป็นธรรม

คลิปอีจันแนะนำ
ครูชัยยศ ทำเพื่อนักเรียน แต่ผลที่ได้ คือ พ้นความเป็นครู