จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28เม.ย.68 ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเหตุสลดตึกสตง.ถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่เพื่อหาผู้สูญหายเพิ่มเติม
วันนี้(22เม.ย.68) นาย สุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สปภ. อัพเดทสถานการณ์ เหตุตึกถล่ม ในช่วงเช้าของวันนี้ได้ทำการวัดความสูงของตัวอาคารในโซน A และ B ความสูงอยู่ที่ 9.78 เมตร และในส่วนของโซน BและC จะมีส่วนที่ยังคงสูงสุดอยู่ที่ 8.58 เมตร แต่ตัวพื้นส่วนใหญ่จะลงไปอีก 1 เมตร เท่ากับยอดสูงสุดของโซน B-C อยู่ที่ 7 เมตรกว่า
เมื่อวันที่ 21เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ร่างในสภาพที่สมบูรณ์อยู่ที่โซน C ใต้ช่องบันได และพบอีกจำนวน 3 ร่าง ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตอีก 2 ร่างในจุดเดียวกัน กำลังดำเนินการกู้ร่างขึ้นมา
ซึ่งร่างที่พบนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ร่างอยู่ในช่องบันไดเป็นสภาพที่สมบูรณ์แต่อาจจะมีชิ้นส่วนหายไปบ้าง แต่สามารถที่จะระบุได้ว่าเป็น 1 ร่างของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกันกับ 4 ร่างที่พบเมื่อวานนี้
ในส่วนของการนำเศษปูนและเหล็กออกจากตัวอาคาร เมื่อวานนี้สามารถขนได้ 221 เที่ยว ทำให้พื้นที่การทำงานเพียงพอ และเพิ่มเครื่องจักรกลเข้ามา ซึ่งได้มีการปรับการทำงานของแมคโครและเครื่องจักรทั้งหมด 28 ตัว ให้หมุนเวียนการทำงานเพื่อความต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มคนขับแมคโครของทางกรุงเทพฯ เข้ามาในส่วนของโยธาธิการและสนง.ป้องกันภัย และได้ความร่วมมือจากอาสา อปพร. บางแค,บางนามาเสริม ทำให้การทำงานเป็นไปตามเป้าหมาย ในระยะเวลาอีก 8 วันจนถึงสิ้นเดือนคาดว่าน่าจะถึงชั้น 1
นาย สุริยชัย บอกอีกว่า ความร้อนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ทางเครื่องจักรกลในห้องโดยสารก็เป็นห้องแอร์ และมีการฉีดน้ำลดฝุ่น ลดอุณหภูมิตลอด
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บงคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เผยว่า การกู้ร่างขึ้นมานั้นอยู่ที่ประมาณ 50 ศพ และได้ทำการคืนร่างให้ญาติไปประมาณ 37 ศพ เมื่อวานนี้ได้คืนให้ญาติไปอีก 3 ศพ ซึ่งวันนี้ในที่ประชุมได้มีมติที่จะคืนศพให้กับญาติอีก 5 ศพ เพราะเข้าใจเรื่องของญาติครอบครัวที่รอรับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนา เท่ากับคืนศพให้กับญาติได้แล้วจำนวน 49 ศพ เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับยอดที่ปภ.กู้ขึ้นมา นับว่าเป็น 99% ที่สามารถจะคืนศพให้ได้เพราะรู้ชื่อทั้งหมดแล้ว
ส่วนสาเหตุการถล่มของตึกสตง. อยู่ในขั้นของการเก็บพยานหลักฐานเพิ่มติม และจะได้รับความดูแลจากปภ.ให้เข้าไปตามเวลาที่กำหนด ซึ่งจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงอุตสาหกรรม ที่จะเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน
สาเหตุการพังถล่มของตึกนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป