สลดยิ่งกว่าสลด ทิ้งผู้ป่วยเอดส์ข้างวัดพระบาทน้ำพุ โห…จิตใจ?

สลดยิ่งกว่าสลด เพจเฟซบุ๊กวัดพระบาทน้ำพุ ได้โพสต์ภาพสุดน่าเวทนา ว่ามีผู้ป่วยเอดส์ ถูกทิ้งข้างกำแพงวัด โห…จิตใจ?

เพจเฟซบุ๊กวัดพระบาทน้ำพุ ได้โพสต์ภาพสุดน่าเวทนา ว่ามีผู้ป่วยเอดส์ ถูกทิ้งข้างกำแพงวัด

ภาพจากอีจัน

วันนี้ (5 พ.ย. 61) ในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพ ผู้ป่วยเอดส์รายหนึ่ง นอนอยู่บริเวณข้างวัดพระบาทน้ำพุ
ซึ่งเพจเฟซบุ๊กวัดพระบาทน้ำพุ ได้โพสต์ภาพนิ่งพร้อมระบุว่า


“การนำผู้ป่วยมาทิ้งไว้ข้างกำแพงหน้าวัดอาจเป็นทางเลือกที่ง่าย แต่เป็นทางเลือกที่ไม่เป็นผลดีสำหรับคนไข้ ปัจจุบันโรคเอดส์สามารถรักษาและควบคุมอาการได้หากผู้ป่วยได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลใกล้บ้านทุกแห่งทั่วประเทศ”

ภาพจากอีจัน
นอกจากนี้ยังมีโพสต์ที่เป็นคลิปวิดีโอ ที่มีการพูดคุยสอบถามผู้ป่วยคนดังกล่าวด้วย
ภาพจากอีจัน
โดยในคอมเม้นท์ของโพสต์คลิปวิดีโอ ทางเพจเฟซบุ๊กของวัดพระบาทน้ำพุก็ได้โพสต์รายละเอียดในการนำผู้ป่วยมาอาศัยที่วัดไว้ด้วย ระบุว่า
ภาพจากอีจัน


“การนำผู้ป่วยมาฝากให้วัดพระบาทน้ำพุดูแล ทำไมทางวัดต้องมีเอกสารหลายอย่างในการนำส่งตัวผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นประวัติการรักษา เอกสารส่วนตัว ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบเซ็นยินยอมของญาติ และการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติในการรับผู้ป่วย
นั่นเพราะ วัดพระบาทน้ำพุไม่รู้ประวัติผู้ป่วย ถ้าผู้ป่วยสื่อสารได้ดีก็ดีไป ถ้าสื่อสารไม่ได้เราต้องนับ 1 กันใหม่ตั้งแต่เจาะเลือด ตรวจสุขภาพ ว่ามีโรคแทรกซ้อนหรือไม่ ต้องทำการรักษาโรคแทรกซ้อนก่อนมั้ย บลา ๆ รายละเอียดมันเยอะมาก ถ้ามีประวัติการรักษาวัดจะประสานกับทางรพ.เก่าเพื่อขอประวัติการรักษาและรักษาต่อเนื่องต่อไป ซึ่งถ้าไม่มีขั้นตอนตรงนี้ค่อนข้างใช้เวลา และถ้าผู้ป่วยที่มามีอาการหนักบางครั้งอาจไม่ทันการ และถ้าทิ้งแบบไม่มีเอกสารประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วัดจะต้องไปแจ้งความ และอีกสารพัดอย่าง ถ้าผู้ป่วยต้องรักษาตัว ผ่าตัด เจาะเลือด ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสารหรือช่วยเหลือตัวเองได้ ใครจะเป็นผู้ยินยอม วัดไม่สามารถทำแทนได้ ไหน ๆ ก็เอาผู้ป่วยมาถึงหน้าวัดแล้ว อยู่รอพบเจ้าหน้าที่สักหน่อย สอบถามพูดคุยกัน บ่อยครั้งที่ญาตินำผู้ป่วยมาวัดแล้วนำกลับไป เพราะเข้าใจวิธีการดูแลและอยู่ร่วมกัน และบ่อยครั้งที่ญาตินำเอกสารมาไม่ครบและสัญญาว่าจะส่งมาให้แล้วเงียบหายไป บ่อยครั้งที่ญาติทำถูกต้องตามระเบียบของวัดและสัญญาว่าจะมาเยี่ยมตามที่วัดกำหนดแล้วเงียบหายไป ทางวัดเจอมาทุกรูปแบบ
วัดพระบาทน้ำพุไม่เคยปฏิเสธผู้ป่วยถ้าเตียงไม่เต็ม (บ่อยครั้งเตียงเต็มยังต้องรับ) อย่าเอามาทิ้งแบบนี้เลย เข้ามาพูดคุยกันทำทุกอย่างให้ถูกต้องเพื่อที่เค้าจะได้มีโอกาสฟื้นตัวและมีชีวิตต่อไป เถอะ
ทุกวันนี้ HIV มียาต้านไวรัสทาน สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นได้ปกติ มันไม่ได้ติดกันง่าย ๆ เปิดใจ ให้โอกาสให้พวกเค้าได้มีที่ยืนในสังคมบ้าง ขอให้วัดพระบาทน้ำพุเป็นเพียงทางผ่านให้พวกเค้ามาพักฟื้น แล้วกลับไปใช้ชีวิตปกติในสังคม อยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูงอย่างมีความสุขเถอะ”