ออกหมายจับฉ้อโกงประชาชน อ.ตุ๊ก เบื้องหลังคนจัดงานวิ่ง

ความคืบหน้ากรณีการจัดงานวิ่ง Charity Chonburi Marathon 2018 and Charity Concert for BUH ได้สร้างความสะเทือนให้โลกโซเชียล เมื่อนักวิ่งไม่มีน้ำดื่ม จนได้รับบาดเจ็บ 2 คน และมอบเงินให้โรงพยาบาลบูรพาเพียง 5 แสนบาท จากยอดขายบัตรที่สูงถึง 6.8 ล้านบาท โดยอ้างว่าหักค่าใช้จ่ายการจัดงานไป 6.4 ล้านบาท

อาจารย์ตุ๊ก ผู้อยู่เบื้องหลังงานวิ่งดราม่า เตรียมขนของหนีกลัวโดนจับ 
นางสังข์วาล ชลศรานนท์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายกิตติภัทร ชลศรานนท์ ประธานชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านริมทะเล บ้านเลขที่ 167/96 หมู่ที่ 3 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของอาจารย์ตุ๊ก หรือนายธงชัย เจียรนัย ผู้อยู่เบื้องหลังการจัดวิ่งแชริตี้ ชลบุรี มาราธอน 2018
เรียกร้องให้อาจารย์ตุ๊กออกมารับผิดชอบ นำเอกสารมาชี้แจง เพื่อช่วยไม่ให้ลูกตนไม่ต้องโดนตำรวจจับ แต่อาจารย์ตุ๊กได้ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน และมีการว่าจ้างรถบรรทุกมาเตรียมขนของหนี ไปรังสิต จังหวัดปทุมธานี จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า อาจารย์ตุ๊ก เป็นคนที่อื่น แต่มาเช่าบ้านหลังนี้ได้ประมาณ 10 ปี แล้ว ซึ่งได้เลี้ยงหมาไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง

ส่วนนายกิตติภัทร ประธานชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 ได้เดินทางมา สภ.เสม็ด พร้อมแม่ เรียกร้องให้ อาจารย์ตุ๊ก ออกมารับผิดชอบ ขอร้องให้ออกมา สมาชิกทุกคนที่เอาเงินไปกินไปใช้ ซึ่งตนรู้ว่ามีใครบ้าง ไม่เช่นนั้นสังคมจะตราหน้าทุกคน ตนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว และมีหลักฐานทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ตนกำลังจะถูกตำรวจดำเนินคดี ที่ผ่านมาตนเองปกป้องและออกหน้ารับมาตลอด

หลักจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ของฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี มีการนำกำลังมาที่บ้านของ อ.ตุ๊ก และมีการเรียกให้ออกมา แต่ก็ไร้วี่แวว ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีหมายค้น จึงไม่สามารถที่จะบุกเข้าไปจับได้

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. (9 พ.ย. 61) อ.ตุ๊กได้วิ่งออกมาขึ้นรถตำรวจทันที จากนั้นถูกเชิญตัว ไปที่สภ.เสม็ด สอบสวนทำให้ทราบชื่อจริงภายหลังคือ นายโชคชัย ก่อการกรวด อายุ 48 ปี ส่วนชื่อนายธงชัย เจียรนัย ที่ใช้อ้างในตอนแรกนั้น เป็นชื่อปลอม

พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า จากการที่พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำนายโชคชัย และนายกิตติภัทร และนับตั้งแต่มีผู้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 2 นั้น ผลจากการรวบรวมเอกสารและสอบปากคำผู้เสียหายที่แจ้งความกับพนักงานสอบสวน เข้าข้อกฎหมายร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จึงได้สรุปสำนวนส่งศาลจังหวัดชลบุรี เพื่อขอออกหมายจับ ขณะนี้กำลังประสานงานกับทางศาล หากศาลอนุมัติหมายจับก็จะดำเนินการจับกุมบุคคลทั้ง 2 คน เพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งขยายผลหากมีผู้เกี่ยวข้อง ส่วนผู้ที่คิดว่ามีส่วนร่วมในการจัดวิ่งครั้งนี้อยากให้มาพบกับพนักงานสอบสวนจะดีกว่า

จากนั้น เรือโท ศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาที่ สภ.เสม็ด เพื่อตรวจดูสำนวนอีกครั้ง หลังตำรวจ ได้สรุปสำนวนและขอศาลอนุมัติหมายจับ อาจารย์ตุ๊ก หรือนายโชคชัย ก่อการรวด และนายกิตติภัทร ชลศรานนท์ ประธานชมรมเดินวิ่งสวนหลวง ร.9 นอกจากนี้ได้ให้นายกิตติภัทร นำเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการวิ่งมาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

ล่าสุดศาลได้อนุมัติออกหมายจับ อาจารย์ตุ๊ก หรือนายโชคชัย เพียงคนเดียวในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีพฤติการณ์ในการหลบหนี จึงได้จับคุมตัวไว้ดำเนินคดี และตำรวจยืนยันคัดค้านการประกันตัว จากการสอบปากคำในครั้งนี้อาจารย์ตุ๊ก หรือนายโชคชัย ไม่ยอมให้การใดๆ ทั้งสิ้น ขอไปให้การชั้นศาลแทน ตำรวจจึงได้นำตัวเข้าห้องขัง เพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลต่อไป

ต่อมา พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพานิช รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกล่าวว่า ขณะนี้ได้ขออนุมัติหมายจับ อาจารย์ตุ๊ก หรือนายโชคชัยและศาลได้อนุมัติแล้ว เนื่องจากการทำกิจกรรมวิ่งการกุศลในครั้งนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท แต่มีการมอบให้กับทางโรงพยาบาลบูรพาเพียง 5 แสนบาทเศษ แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถหาหลักฐานมาชี้แจงได้ จึงได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งจะขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องหากพบ ก็จะดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าอาจารย์ตุ๊กได้หนีหมายจับจากศาลล้มละลายพร้อมกับภรรยา และยังมีหมายศาลเก่าอีกหลายโรงพัก ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่ามีการจับกุมไปหรือยัง ส่วนภรรยาที่หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจะได้ติดตามเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป