แฟนเก่ายิงแฟนใหม่! รวบมือยิง ติวเตอร์ หมกศพใต้ท้องรถเเท็กซี่ เผยปมหึงหวง

คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชายเสียชีวิต แล้วนำศพมาซ่อนไว้ใต้ท้องรถแท็กซี่

(11 พ.ย.2561) กรณี คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชายเสียชีวิต แล้วนำศพมาซ่อนไว้ใต้ท้องรถแท็กซี่บริเวณริมทางภายในซอยพ่วงทรัพย์ พื้นที่ สน.เตาปูน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2561 เวลาประมาณ 21.30 น. โดยตำรวจรับแจ้งเหตุมีผู้ถึงแก่ความตายอยู่ใต้ท้องรถยนต์แท็กซี่บริเวณริมทางภายในซอยพ่วงทรัพย์ แขวงเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.2 ,พนักงานสอบสวน พร้อมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงไปตรวจสถานที่เกิดเหตุและแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชร่วมชันสูตรศพ พบว่าผู้ตายมีบาดแผลเป็นรูที่บริเวณศีรษะ และมีถุงพลาสติกคลุมศีรษะและมีเทปกาวพันคอไว้ ต่อมาได้มีน.ส.ศศิกานต์ คันทัพไทย อายุ 31 ปี มายังที่เกิดเหตุและแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าผู้ตายชื่อนายณัฎฐวัฒน์ เพียรสกุล อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นแฟนใหม่ ของ น.ส.ศศิกานต์ โดยจากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นสงสัยว่า นายสุรสิทธิ์ จันทร์วงศ์สกุล อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแฟนเก่า ของ น.ส.ศศิกานต์ อาจจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ พนักงานสอบสวน ชุดสืบสวน และตำรวจพิสูจน์หลักฐานรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ถ่ายภาพ วาดแผนที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่ผู้ต้องหานำศพมาทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ
ภาพจากอีจัน

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายณัฏฐวัฒน์ ผู้ตายหายตัวไปไม่ยอมกลับบ้าน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2561 ตำรวจตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่ได้รับแจ้ง แล้วพบว่าผู้ตายได้ขึ้นรถยนต์ฟอร์ด สีแดง คันสงสัยออกไปจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันที่นายสุรสิทธิ์ ใช้และครอบครองอยู่ จึงได้ติดตามและเข้าตรวจค้นที่บ้านพักของนายสุรสิทธิ์ ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนอยู่ในตัวของนายสุรสิทธิ์ สอบถามแล้วรับว่าเป็นผู้ฆ่านายณัฏฐวัฒน์ จริง โดยใช้อาวุธปืนยิงศีรษะผู้ตาย จากนั้นได้นำศพไปซ่อนไว้ใต้ท้องรถยนต์แท็กซี่บริเวณริมทางภายในซอยพ่วงทรัพย์ ต่อมาชุดสืบสวนได้นำตัวนายสุรสิทธิ์ฯ พร้อมของกลางมาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้วซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานไปส่วนหนึ่งแล้ว คงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลการตรวจของกลางจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ที่ผ่านมา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบัญชาการ ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดี ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ตามหลักกฎหมาย อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม