ไทม์ไลน์ ช่อลัดดา เหยื่อผัวโหดสาดน้ำกรด สู่การทวงหาความเป็นธรรม

ช่อลัดดา หญิงสาวผู้น่าสงสาร เหยื่อผัวโหดสาดน้ำกรดระบายความหึง เคราะห์ซ้ำอ้างโดน รพ.ปฏิเสธรักษา


จากเหตุสลด สาวโดน ผัวโหด จับน้ำกรดกรอกปาก พร้อมราด ใบหน้าและตัว จนเจ็บปวด เคราะห์ซ้ำ เมื่อเธอไปโรงพยาบาล ก็มีเหตุต้องโยกย้าย เพราะไป รพ.พระราม 2 หมอบอกต้องเสียเงิน

เธอจึงต้องอดทนกัดฟันไป รพ.ที่ทำประกันสังคมไว้ แต่ความอดทนของเธอสู้ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่โดนน้ำกรดกัดกินไม่ไหว เป็นเหตุให้เธอต้องเสียชีวิต

ภาพจากอีจัน


ไล่เรียงเหตุการณ์ของ ช่อลัดดา หญิงสาวผู้น่าสงสาร กันอีกครั้ง

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นใน ช่วงประมาณตี 5 ของวันที่ 9 พ.ย.61

นายคำตัน สิงหนาท ฉวยโอกาสตอน น.ส.ช่อลัดดา ผู้เป็นภรรยา หลับสนิท

จับน้ำกรดหรอกปาก พร้อมราดไปที่หน้า และตัว ของช่อลัดดา เพื่อระบายความโกรธแค้นจากความหึง ที่สะสมมานานเกือบปี ก่อนจะหนีไป

ภาพจากอีจัน


น้องเต ลูกติดของ ช่อลัดดา ที่นอนอยู่ข้างๆ สะดุ้งตื่นด้วยความเจ็บ เพราะน้ำกรด ที่พ่อเลี้ยงราดแม่ของเธอนั้น กระเด็นโดนต้นขาเธอเช่นกัน

แต่!!! เมื่อน้องเต เห็นอาการของแม่ที่ทุรนทุราย พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ เธอก็ลืมความเจ็บปวดไปซะหมด และรีบพาแม่ของเธอออกจากห้องพัก

และรีบพากันไปหน้าปากซอยบ้าน อย่างทุลักทุเล เพื่อเรียกรถแท็กซี่ ให้พาแม่ของเธอไปส่งโรงพยาบาลบางมด

ระหว่างทางไปโรงพยาบาล ช่อลัดดา ร้องโอดครวญ เพราะบาดแผลที่ถูกน้ำกรดกัดเซอะ ทั้งใน และนอกร่างกาย

ทำให้ คนขับแท็กซี่ ตัดสินใจพาเธอไปส่งที่ รพ.พระราม 2 ซึ่งเป็น รพ. ระหว่างทางก่อนจะถึง รพ.บางมด เพราะความสงสาร

ภาพจากอีจัน


น้องเตเล่าว่า เมื่อถึง รพ.พระราม 2 แม่ของเธอรีบวิ่งไปห้องฉุกเฉิน และขอให้พยาบาลในห้องฉุกเฉินช่วยเหลือ

พยาบาลจึงรีบพาเข้าไปในห้องฉุกเฉินและทำแผล หลังจากนั้นพยาบาล ได้เดินมาบอก น้องเต ให้พาแม่ขึ้นรถแท็กซี่ไป รพ.บางมด

และให้เงิน น้องเต เป็นค่ารถ 40 บาท พร้อมเรียกรถแท็กซี่ให้

ระหว่าวทาง ช่อลัดดามีอาการคล้ายคนหมดสติ มือตก และไม่ตอบกลับ

เมื่อถึง รพ.บางมด หมอได้ทำการปั๊มหัวใจ แต่สุดยื้อ ช่อลัดดา เสียชีวิตแล้ว

นี่คือคำบอกเล่าจากน้องเต

เหตุการณ์ที่ น้องเต เล่าทำให้ครอบครัวช่อลัดดา โกรธเคือง รพ.พระราม 2 อย่างมาก จึงขอความช่วยเหลือจาก นายอัจฉริยะ เรื่องรัตนพงศ์ ให้ช่วยทวงความยุติธรรม และหาคำตอบว่า “ทำไม โรงพยาบาลพระราม 2 ไม่รับรักษา ช่อลัดดา จนเป็นเหตุให้เธอตาย”

ช้าวันที่ 11 พ.ค.61 นายอัจฉริยะ พร้อมครอบครัวช่อลัดดา เดินทางมาที่ โรงพยาบาลพระราม 2 พร้อมกับโลงศพของ ช่อลัดดา เพื่อมาขอคำชี้แจงจาก รพ.พระราม 2

ยืนรออยู่หน้าโรงพยาบาลไม่นาน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็มาเชิญครอบครัว ขึ้นไปชี้แจงเหตุการณ์ ที่ห้องประชุมชั้น 6

ภาพจากอีจัน
การชี้แจงเริ่มขึ้น โดย นพ.พีระ คณานุวัฒน์ ผู้ดำเนินการ รพ.พระราม 2

นพ.พีระ เล่าว่า ตี 5 กว่าๆ วันที่ 9 พ.ย.61 เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน เห็น ช่อลัดดา วิ่งเข้ามาในห้องฉุกเฉิน ทางประตูด้านหลัง ทั่วใบหน้าและลำตัวของเธอ เต็มไปด้วยคราบยาสีฟัน

พยาบาลจึงแจ้งให้ไปล้างคราบออกให้หมด เพื่อมาประเมินบาดแผลและทำการรักษา

ช่อลัดดา เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างคราบยาสีฟันด้วยตัวเอง และเดินมานอนบนเตียง พร้อมแจ้งว่า โดนน้ำกรดราด


เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินจึง ประเมินอาการ และวัดสัญญาณชีพ ผลออกมาว่า

บาดแผล เป็นรอยแดงจากการถูกสารเคมีระดับ 1หรือระดับปฐมภูมิ ตา 1 ข้างลืมไม่ขึ้น

ความดัน 130/80 ชีพจร 80 ครั้ง/นาที หายใจ 20 ครั้ง/นาที

ผลการวัดนี้แสดงให้เห็นว่า ช่อลัดดา ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติ สัญญาณชีพปกติ

เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินจึงได้ทำการล้างแผล และพันแผลให้

พร้อมแจ้งให้ ช่อลัดดา พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อ

ภาพจากอีจัน


การรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพระราม 2 นั้น ต้องมีค่าใช้จ่าย เนื่องจาก ช่อลัดดา ไม่เข้าขั้นผู้ป่วยวิกฤต ไม่สามารถ ใช้สิทธิ์รักษาฟรี 72 ชั่วโมงได้

พยาบาลเห็นว่า ช่อลัดดา สามารถเดินเองได้ สามารถโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ จึงแนะนำให้ไปรักษาต่อที่ รพ.บางมด ซึ่งเป็น รพ. ที่เธอทำประกันสังคมไว้

และหวังดีกลัวว่าจะรอรถโรงพยาบาลบางมด มารับตัวช้า จึงแนะนำอีกว่า ให้นั่งรถแท็กซี่ไป เพื่อความรวดเร็ว พยาบาลจึงให้เงิน น้องเต ลูกสาว ช่อลัดดา ไป 40 บาทเป็นค่ารถ


แต่การเจรจาเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อ นายอัจฉริยะ และ ครอบครัวช่อลัดดา ขอดูกล้องวงจรปิด แต่ โรงพยาบาล ไม่ให้ดู โดยอ้างว่า กล้องวงจรปิด ให้ตำรวจ สน.ท่าข้าม ไปแล้ว

การเจรจาจึงเปลี่ยนเป็นการเถียงกันไปมาระหว่างฝ่าย ญาติผู้เสียชีวิต กับทางโรงพยาบาลพระราม 2

และเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งการตบโต๊ะ ชี้หน้า และใช้ถ้อยคำรุนแรง จนการชี้แจงต้องยุติลง

ภาพจากอีจัน

ภายหลัง นายอัจฉริยะ และครอบครัว ช่อลัดดา ออกจากห้องประชุม

พญ.วัลลภา ไชยมโนวงค์ ผอ รพ.พระราม 2 ตั้งโต๊ะชี้แจงกับสื่ออีกครั้ง โดยยืนยันว่า ไม่มีความตั้งใจให้ ช่อลัดดา เสียชีวิต

แต่ในวันนั้นประเมินอาการแล้วว่า นอกจากมีบาดแผลแล้ว สัญญาณชีพของผู้ป่วยก็ปกติทุกอย่าง และยืนยันว่าการ ให้ ช่อลลัดดา ไปรักษาตัวต่อ ที่ รพ.บางมด เป็นความประสงค์ของ ช่อลัดดา เอง 

การเจรจา ยุติลง โดยทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เข้าใจกันได้
ทางด้านนายอัจฉริยะ ยืนกราน จะฟ้องร้อง รพ.พระราม 2 ต่อ เพราะยังเห็นถึงความบกพร่องในการทำงาน
โดยประกาศว่า ในวันที่ 12 พ.ย.61 จะพาครอบครัวช่อลัดดา ไปร้องเรียนที่ กระทรวงสาธารณะสุข

ภาพจากอีจัน


ยังไม่ทันข้ามคืน
ครอบครัวช่อลัดดา ก็ได้ข่าวดี ตำรวจตามจับ นายคำตัน ผัวโหด ได้แล้ว
โดยนายคำตัน หนีไปกบดาน อยู่ที่ จ.นครสวรรค์ โดยสารภาพว่า สาดน้ำกรดใส่เมียที่รัก เพราะความหึงหวง หวังเพียงให้ เมียรัก เสียโฉมเท่านั้น ไม่คิดทำถึงขั้นให้ตายจากกัน

พร้อมเล่าย้อนถึงความสัมพันธ์ ระหว่างคำตัน และ ช่อลัดดา ว่า ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสมานานประมาณ 7 ปีแล้ว นายคำตันทำอาชีพขับรถแท็กซี่ ส่วนภรรยาทำงานขายจักรเย็บผ้าที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค

และช่วงหลังมานี้ มีปากเสียงกันบ่อยขึ้นจากความหึงหวง เพราะ ช่อลัดดา กำลังจะไปทำงานต่างประเทศ และกำลังให้แม่ ลงมาจากต่างจังหวัดเพื่อให้ช่วยพูดคุยกับตนเอง นายคำตัน จึงถือโอกาสก่อเหตุดังกล่าว


นี่คือคำสารภาพ ของผู้ชายที่อ้างว่า สาดน้ำกรดเพราะรักเมีย

ภาพจากอีจัน


12 พ.ย.61 เวลา 10.00 น.
รอบครัว และ นายอัจฉริยะ เดินทางมาที่ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้ตรวจสอบ โรงพยาบาลพระราม 2 ว่ามีบุคลากรที่มีคุณภาพหรือไม่ตามหลักจรรยาบรรณควรคำนึงถึงอาการคนไข้เป็นสำคัญ เพื่อรักษาให้คนไข้ปลอดภัยที่สุดก่อนหรือไม่ ทั้งร้องนายกแพทยสภา เอาผิดแพทย์ ร้องสภาพยาบาล เอาผิดพยาบาลด้วย โดยนายอัจฉริยะยังบอกอีกว่า ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนแก่ โรงพยาบาลเอกชน ขอให้คำนึงถึงชีวิตคนไข้ก่อนเงินเป็นสำคัญ

ภาพจากอีจัน


ซึ่ง นพ.ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นผู้รับเรื่อง โดยชี้แจงให้ ครอบครัว ช่อลัดดา ว่า

การเอาผิดโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากหลายข้อร่วมกัน ซึ่งต้องแยกเป็นข้อๆ เพื่อดูว่ามีความประมาทของบุคลากรทางการแพทย์ตรงไหน อย่างไร

ส่วนเรื่องการแจ้งสิทธิ์ UCEP หรือการแจ้งการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาลจะดำเนินการ

ซึ่งตามหลักแล้วไม่ว่าอย่างไร แพทย์หรือผู้รักษาก็ต้องคำนึงอาการของคนไข้เป็นหลัก และทำการรักษาคนไข้ให้ปลอดภัยพ้นขีดอันตรายให้มากที่สุดก่อน

หลังจากนั้นเรื่องค่าใช้จ่ายหรือการรักษาต่อก็ว่ากันไปตามประสงค์ของคนไข้

ตนยืนยันว่าหลังรับเรื่องนี้แล้วจะเร่งตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้เรื่องนี้ได้ขอยุติที่เป็นผลดีต่อไป

ภาพจากอีจัน

ตอนนี้เหลือเพียง ความเป็นธรรมเท่านั้น ที่ครอบครัวอยากจะตามทวงคืนให้ ช่อลัดดา เป็นสิ่งสุดท้าย