ปมย้าย พ.ต.ท.ชูวิทย์ เพราะพิษหวย!!!

ปมย้าย พ.ต.ท.ชูวิทย์ เพราะพิษหวย!!!

ปมย้าย พ.ต.ท.ชูวิทย์ เพราะพิษหวย!!!

ภาพจากอีจัน
จะเล่าให้ฟังเบาๆนะว่า พ.ต.ท.ชูวิทย์ เกี่ยวข้องกับคดีหวย 30 ล้านยังไงบ้าง? พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค ตำแหน่ง คือ รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เขาเป็น รองผกก. อยู่ดีๆวันหนึ่งก็ได้เห็นเหตุการณ์ขณะพนักงานสอบสวนพยายามไกล่เกลี่ยนายปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งสถานการณ์ คือ มีการโต้เถียงกันโดยต่างฝ่ายต่างยืนยันเป็นเจ้าของสลาก พ.ต.ท.ชูวิทย์ จึงเชิญนายปรีชาและร.ต.ท.จรูญเข้าไปพูดคุยในห้องทำงาน

จากนั้น พ.ต.ท.ชูวิทย์ ได้เดินออกมาสั่งพนักงานสอบสวนให้รับคำร้องทุกข์ เพราะคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ จึงมีการรับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญา ลงวันที่ ๒๘ พ.ย. ๖๐

ภาพจากอีจัน
จากนั้นพนักงานสอบสวนก็ได้ปรึกษาการทำสำนวนคดีนี้กับ พ.ต.ท. ชูวิทย์ หัวหน้างานสอบสวน โดยตลอด ซึ่ง พ.ต.ท. ชูวิทย์ ก็สั่งการด้วยวาจาให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานปากต่าง ๆ ให้กลมกลืน #ทำสำนวนให้กลมกลืน (ย้ำอีกที) จึงเกิดเหตุทำให้สำนวนมีการแก้ไขแล้วแก้ไขอีก!!! ซึ่งการดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขบันทึกคำให้การนี้ พล.ต.ต.สุทธิ และ พ.ต.ท.ชูวิทย์ ทราบมาโดยตลอด เพราะพนักงานสอบสวนได้นำสำนวนไปให้บุคคลทั้งสองตรวจหลายครั้ง บุคคลทั้งสองจึงทราบความเป็นมาเป็นไปของสำนวน แต่ไม่ได้ทักท้วงจ๊ะ
ภาพจากอีจัน
ต่อมา… มีคำสั่ง ภ.จว.กาญจนบุรีและคำสั่ง ภ.๗ แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน (แปลว่าอะไร ฮั้วกันไปถึงไหน) สำนวนยังอยู่กับพนักงานสอบเหมือนเดิม  (ผู้ใหญ่รู้แต่…ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจ๊ะ) ไม่มีการส่งมอบสำนวนให้แก่หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
ภาพจากอีจัน
มีรายงานข่าวบอกเบาๆ อย่าพูดดังไปว่า พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค หน.งานสอบสวน ให้การว่า ในส่วนของตัวเองนั้น ทำหน้าที่เพียงรายงานให้ พล.ต.ต.สุทธิ ทราบด้วยวาจาถึงเรื่องครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่ง พล.ต.ต.สุทธิ สั่งการให้รีบอายัดเงินในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ เขาก็สั่งต่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการโดยละเอียด พ.ต.ท.ชูวิทย์ รับว่าเป็น ผู้ลงนามในหนังสือ อายัดบัญชีธนาคารของ ร.ต.ท.จรูญ
ภาพจากอีจัน
จากนั้น พล.ต.ต.สุทธิ ได้เรียกพ.ต.ท.ชูวิทย์ ให้นำสำนวนไปรายงานความคืบหน้า ให้ทราบและกำชับให้สอบพยานต่างๆ ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ ได้มีหนังสือแจ้งให้ถอนอายัดไม่เช่นนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย วันที่ ๘ ธ.ค.๖๐ พ.ต.ท.ชูวิทย์ ได้ไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อปรึกษาผู้พิพากษาเกี่ยวกับอำนาจ การอายัดบัญชีของ พงส. แต่ระหว่างรอพบผู้พิพากษา พ.ต.ท.ชูวิทย์ ได้พบนางนางดุษฎี หรือกุ้ง ถิ่นทุ่งน้อย เจ้าหน้าที่ศาลซึ่งรู้จักกันมานานประมาณสิบปี เข้ามาเล่าให้พยานฟังว่า อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่นายปรีชาฯมารับสลากจาก น.ส.รัตนาพรฯ และเห็นว่าสลากที่มีเลขท้าย ๗๒๖ โผล่มาจากกระเป๋าเสื้อของนายปรีชาด้วย
ภาพจากอีจัน
พ.ต.ท.ชูวิทย์จึงได้กลับมาบอกให้พนักงานสอบสวนเรียกนายปรีชา น.ส.รัตนาพร และ น.ส.พัชริดา มาสอบถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่นางดุษฎี เล่ามาซึ่งเมื่อ น.ส.รัตนาพร และ น.ส.พัชริดา มาถึงสถานี พ.ต.ท.ชูวิทย์ ได้เข้าไปสอบถามด้วยตนเอง ซึ่งทั้งสองคนก็บอกว่านางดุษฎี อยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ที่ผ่านมาไม่ได้กล่าวอ้างไว้ เพราะนึกไม่ถึงคนเยอะ จำไม่ได้ พ.ต.ท.ชูวิทย์ จึงแน่ใจว่านางดุษฎี อยู่ในเหตุการณ์ตามที่เล่าให้ฟัง พ.ต.ท.ชูวิทย์จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายปรีชา น.ส.รัตนาพร และ น.ส.พัชริดา ให้ปรากฏชื่อของ นางนางดุษฎี อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพื่อให้มีเหตุในการออกหมายเรียก นางดุษฎีมาสอบเป็นพยาน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

พ.ต.ท.ชูวิทย์ ยอมรับว่า เคยอ่านคำให้การของผู้กล่าวหาและพยานที่เกี่ยวข้องใน คดีนี้ก่อนการแก้ไขมาแล้วทุกปาก และเมื่อพบว่าข้อเท็จจริงใดไม่สอดคล้องกันก็แนะนำให้ ทำการสอบสวนพยานปากนั้นให้กลมกลืนกับเหตุการณ์ที่มีอยู่
พ.ต.ท.ชูวิทย์ ยอมรับว่าคำให้การของนายปรีชา น.ส.รัตนาพร และน.ส.พัชริดา มีการแก้ไขหลายครั้งแต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งและเมื่อใดบ้าง
สาเหตุที่พ.ต.ท.ชูวิทย์ ไม่ได้แนะนำให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมไปตามลำดับ เหตุการณ์นั้น เพราะ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เห็นว่าทำให้คำให้การไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจนำข้อเท็จจริงมา จากสื่อหรือจากแหล่งอื่นๆคำให้การเพิ่มเติมเช่นนี้จึงส่งผลต่อการพิจารณาน้ำหนักของพยานในชั้น พนักงานอัยการและชั้นศาล

ภาพจากอีจัน
สรุป : พ.ต.ท.ชูวิทย์ฯ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของพนักงานสอบสวนคนทำสำนวน ตรวจสำนวนและ ควบคุมสั่งการเกิดทำการเปลี่ยนแปลงคำให้การ พ.ต.ท. ชูวิทย์ฯ เป็นผู้สั่งให้มีการเปลี่ยนแปลงคำให้การ โดยเป็นการสั่งด้วยวาจาและใช้คำพูดว่า “ทำการสอบสวน ให้กลมกลืน”