เจอตัวแล้ว “แท็กซี่” ไทยคว้าไม้ไล่ พิธีกรดังเกาหลี ลงจากรถ อ้าง ผู้โดยสารเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง จึงไม่อยากไป

เจอตัวแล้ว “แท็กซี่” ไทยคว้าไม้ไล่ พิธีกรดังเกาหลี ลงจากรถ อ้าง ผู้โดยสารเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง จึงไม่อยากไป ส่วนภาพคว้าไม้ไล่ เหตุคุยกันไม่รู้เรื่อง กรมขมส่ง ส่งเรื่องให้ สตช.ดำเนินการตาม กม.ต่อ

จากกรณีที่มีการแชร์ คลิปวีดีโอจากอินสตาแกรม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากอินสตาแกรม @kwrhome คิมอูริ (Kim Woo Ri) พิธีกรรายการทีวีชื่อดังของเกาหลีใต้ และยังเป็นอดีตสไตล์ลิสต์ของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง T-ARA (ที-อาร่า) ซึ่งพิธีกรดังของแดนโสมได้โพสต์คลิป ถูกโชเฟอร์แท็กซี่ไทยถือไม้ไล่ตีกลางถนนแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 61

ซึ่ง คิมอูริ เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย และใช้บริการรถแท็กซี่ ทะเบียน ทห8397 สีชมพู ซึ่งแท็กซี่ได้ขับพาวนไปมา จากปกติที่เคยนั่งแค่ 10 นาที เมื่อสอบถามว่าไปไหน โชเฟอร์แท็กซี่ก็ขอค่ารถเพิ่ม และไล่ลงจากรถ เมื่อคิมอูริและเพื่อนไม่ยอมจ่าย ทั้งยังหยิบไม้ออกมาไล่ฟาด

ทั้งนี้ คิมอูริ ได้โพสต์คลิปดังกล่าว พร้อมเตือนคนเกาหลีที่จะมาเที่ยวประเทศไทยให้ระมัดระวังในการมาเที่ยวด้วย ซึ่งคลิปดังกล่าวมีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นมากมาย ล่าสุด คิมอูริ ได้ลบโพสต์ดังกล่าวไปแล้ว แต่เรื่องราวดังกล่าวก็ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์

ล่าสุด ทราบชื่อคนขับ คือ นายสุรชาติ อาจวงษา ซึ่งเป็นผู้ขับรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทห 8397 กรุงเทพมหานคร
ตามที่ปรากฏเป็นภาพข่าวผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งทางวันนี้ (7 ธันวาคม 2561) กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการขนส่งทางบก ได้ติดตามตัวนายสุรชาติ อาจวงษา ผู้ขับรถมาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งนายสุรชาติ ให้การยอมรับตามที่ปรากฏเป็นข่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.

นายสุรชาติ เล่าว่า ได้รับผู้โดยสารชาวเกาหลี จากห้างฯ สยามพารากอน และได้รับแจ้งจาก พนักงานของห้างฯ ว่าผู้โดยสารต้องการไปสำเพ็ง แต่ระหว่างทาง ผู้โดยสารนำโทรศัพท์แสดงสถานที่ที่จะไปคือ สาธร ตนไม่อยากไปจึงให้ผู้โดยสารลงและไม่คิดค่าโดยสาร แต่เพราะฟังภาษาเกาหลีไม่รู้เรื่อง จึงทำให้เกิดเป็นภาพตามคลิปและภาพที่ปรากฏในโลกออนไลน์ดังกล่าว

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กรมการขนส่งทางบกจึงดำเนินการลงโทษนายสุรชาติฯ ดังนี้ 1.เปรียบเทียบปรับ ฐานทอดทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง ตามมาตรา 57 เบญจ ประกอบมาตรา 66/2 เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท และฐานแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ตามมาตรา 57 ฉ ประกอบมาตรา 66/2 เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท 2.เนื่องจากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จึงสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ เป็นระยะเวลา 30 วัน และส่งตัวเข้ารับอบรมกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องและการบริการที่ดี บันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ 3.แจ้งไปยัง สหกรณ์พรพัฒนาแท็กซี่ จำกัด ผู้ประกอบการให้กำชับผู้ขับรถในสังกัดให้รักษามาตรฐานการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ

นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้จัดส่งผลการดำเนินการให้กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป