ล่าสุดวันนี้ (27 พ.ย.66) คุณมิน หัวหน้าทัวร์ ได้เปิดใจกับ ‘อีจัน’ หลังจากคู่รักหนีทัวร์เกาหลีกลับไทยว่า เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ทำให้คุณมินเกือบตกงานเลย เคยเจอที่เป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง ต่อไปการพิจารณารับรองบุคคลใดในคณะทัวร์ ค่อนข้างยากแล้ว เพราะดูยากว่าข้อมูลไหนจริง ข้อมูลไหนสร้างขึ้นมา จำเป็นต้องให้บุคคลในครอบครัวการรันตี ส่วนตัวหัวหน้าทัวร์ก็จะเป็นล่าม คุยกับ ตม. ให้ลูกทัวร์ ย้ำว่า ปกติบริษัทไม่ได้มีนโยบายให้การันตีลูกทัวร์จากห้องพิจารณาของ ตม. เพราะมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกแบล็กลิสห้ามเข้าเกาหลี
พร้อมฝากถึงนักท่องเที่ยวทุกๆ ท่าน ที่มีแพลนจะเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ว่า สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ หากมีผลอนุมัติของ KETA หรือ VISA แสดงเจตนาให้ ตม. ทราบ ว่าเราต้องการไปท่องเที่ยวจริงๆ ส่วนท่านใด ต้องการที่จะไปทำงานที่บ้านทำงานที่เกาหลีใต้ แนะนำให้ติดต่อผ่านทางกรมแรงงาน เพื่อจะมีสวัสดิการคุ้มครอง ด้านการรักษาพยาบาล และด้านอื่นๆ การซื้อทัวร์เพื่อไปเป็นผีน้อย หรือหนีทัวร์ จะทำให้ไม่มีสวัสดิการคุ้มครองเลย ต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ อาจจะถูกล่อลวง ไปทำงานที่ไม่ได้ค่าจ้างจากนายจ้างซึ่งค่อนข้างเสี่ยงค่ะ
สำหรับประเด็นดราม่าคู่รักหนีทัวร์เกาหลีี เริ่มเกิดขึ้นเมื่อเพจเฟซบุ๊กบริษัททัวร์ Happy Together ประกาศตามหา สามีภรรยาชาวไทยคู่หนึ่ง ที่ไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ กับบริษัททัวร์แล้วทั้งคู่กลับหนีทัวร์ โดยทางบริษัทได้โพสต์วอนให้กลับมา เพราะจะทำให้หัวหน้าทัวร์โดนแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศสูงสุด 10 ปี เนื่องจากหัวหน้าทัวร์ช่วยการันตีลูกค้าให้ผ่าน ตม.
และวานนี้ (26 พ.ย.66) “มิน” หัวหน้าทัวร์ ได้โพสต์คลิปอัปเดตข่าวดี สำหรับกรณีดังกล่าว ระบุว่า
“ขอขอบพระคุณพี่ๆ นักข่าวทุกท่าน สื่อทุกช่อง ที่นำเสนอข่าว และขอขอบพระคุณ พลังโซเชียลทุกๆ ท่านที่ช่วยแชร์ข่าวนี้ออกไป จนทำให้ข่าวนี้กระจายออกไปเป็นอย่างมากและส่งสารถึงคุณบอม และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณบอมที่รักษาคำพูดและเดินทางกลับประเทศไทยตามที่รับปากไว้ ทำให้หัวหน้าทัวร์คุณมินสามารถกลับมาทำงานอาชีพหัวหน้าทัวร์เกาหลีได้อีกครั้ง
ตามที่บริษัทฯ และทนายความได้แจ้งคุณบอม ออกทางรายการแล้วว่า หากคุณบอมเดินทางกลับประเทศไทยภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 66 นี้ ทางบริษัทฯ จะไม่ฟ้องร้องหรือดำเนินคดีใดๆ
ดังนั้น เพื่อให้เรื่องราวทั้งหมดจบลงด้วยดี ทางบริษัทฯ ขออนุญาตลบโพสต์ที่ตามหาลูกทัวร์ทั้ง 2 ท่านออกจากสื่อโซเชียลของบริษัทฯ ทั้งหมด ทางบริษัทฯ ขอยุติเรื่องราวทั้งหมดแต่เพียงเท่านี้”
อย่าหาทำเลยนะคะแบบนี้ เพราะนอกจะสร้างความเดือดร้อนให้กับบริษัททัวร์ที่พาไปแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบให้กับคนไทยที่จะเดินทางไปเกาหลีด้วย