“ชีวิตต้องสู้” ของครูบนดอย ฝ่าน้ำป่า 4 กม. เพื่อขึ้นไปสอนเด็กๆ

“ชีวิตต้องสู้” ของครูโรงเรียนจอซิเดอร์เหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เดินเท้าฝ่ากระแสน้ำป่า 4 กม. กลับโรงเรียน เพื่อการศึกษาของเด็กบนดอย

“ชีวิตต้องสู้” คำนี้คงไม่เกินจริงสำหรับ ครูโรงเรียนจอซิเดอร์เหนือ จ.แม่ฮ่องสอน

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 ฝนที่ตกหนักในป่าต้นน้ำ ส่งผลให้น้ำในลำห้วยหลายสายมีระดับน้ำเพิ่มสูงมาก และไหลบ่าเข้าท่วมถนน ทำให้ครู 5 คน ต้องจอดรถทิ้ง เดินเท้าฝ่ากระแสน้ำถึง 4 กิโลเมตร เพื่อกลับโรงเรียน

นายอาคม น่านกร หนึ่งในครูผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ขณะที่คณะครูพร้อม ผู้อำนวยการโรงเรียน เดินทางจาก อ.แม่สะเรียง เพื่อกลับขึ้นไปโรงเรียน ก็พบกับน้ำป่าไหลหลาก ถนนหนทางได้รับความเสียหาย รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ จึงต้องรอจนน้ำป่าลดระดับลงเพื่อความปลอดภัย แต่ปริมาณน้ำกลับเพิ่มมากขึ้น จึงตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้ เดินเท้าฝ่ากระแสน้ำกลับโรงเรียน

พอถึงรุ่งเช้าวันต่อมา ครูทั้ง 5 คน ก็ค่อยเดินกลับไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ และช่วยกันนำสิ่งกีดขวาง ก้อนหินออกจากเส้นทาง พร้อมเปิดเส้นทางทำถนนหนทางมาตลอดเส้นทาง เพื่อให้รถสามารถวิ่งไปมาได้ บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ไม่เพียงถนนหนทางที่ได้รับความเสียหาย น้ำป่าไหลหลากยังท่วมโรงเรียนจอซิเดอร์เหนือ ตั้งแต่ตี 3 จนถึงตอนเช้า ส่งผลให้บริเวณสนามเด็กเล่น หน้าอาคารเรียน และห้องเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อย รั้วโรงเรียนพัง น้ำพัดดินโคลน เศษต้นไม้ท่อนไม้ ทับถมพื้นที่ต่างๆ ในโรงเรียน ครูและชาวบ้านได้ร่วมมือกันทำความสะอาดโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความ “ชีวิตต้องสู้” ของครูผู้เสียสละ ที่ยอมเดินเท้าฝ่ากระแสน้ำเพื่อกลับโรงเรียน แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใด พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ของตนเอง เพื่อให้การศึกษาแก่เด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล