“บิ๊กโจ๊ก” ยัน ห้ามล้อเล่น! เอาถุงดำคลุมหัวผู้ต้องสงสัย กรณีลุงเปี๊ยกผัวป้าบัวผัน

“บิ๊กโจ๊ก” ยัน ห้ามล้อเล่นการสอบสวนเอาถุงดำคลุมหัวผู้ต้องสงสัย เชื่อคำรับสารภาพลุงเปี๊ยกถูกบังคับชี้นำตั้งแต่ต้นไปจนถึงการทำแผน ไม่พบว่ามีการช่วยเหลือลูกตำรวจ แต่เป็นการเร่งปิดคดีเอาผลงาน

ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง กับคดีป้าบัวผัน อายุ 47 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน รุมทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยมีลูกชายของตำรวจสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ร่วมก่อเหตุด้วย ก่อนนำร่างไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนใน จ.สระแก้ว โดยทั้งหมดถูกจับกุมในเวลาต่อมา ซึ่งคดีนี้ช่วงแรกนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก อายุ 54 ปี สามีของป้าบัวผัน รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุในตอนแรก จนทำให้เกิดข้อสงสัยตามมามากมายว่า เหตุใดตอนแรกลุงเปี๊ยกถึงรับสารภาพนั้น

กระทั่งสื่อสังคมออนไลน์ปรากฏคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ บังคับขู่เข็ญให้ นายเปี๊ยก รับสารภาพว่าฆ่า “ป้าบัวผัน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

วันนี้ (18 ม.ค.67) ภายหลังจากเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำตัวนายปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ จากจังหวัดสระแก้ว เข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี

ล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้เข้าไปสอบปากคำลุงเปี๊ยก เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่ก่อนหน้านี้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพในคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน รวมถึงกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถุงดำคลุมศีรษะและซ้อมทรมานให้รับสารภาพ โดยมีคลิปสนทนาทำนองว่าตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาได้คลุมถุงดำใส่ลุงเปี๊ยกจริง แต่เป็นการหยอกเล่น รวมถึงยังปรากฎอีกคลิปวิดิโอที่เป็นเสียงของลุงเปี๊ยกที่ปฏิเสธว่าไม่มีการใช้โซ่ตรวนในการกักขัง แต่ยอมรับว่ามีการใช้ถุงพลาสติกครอบด้านบนศีรษะ ไม่ได้คลุมทั้งหมด และบังคับให้ถอดเสื้อในห้องแอร์เย็นๆ ช่วงเวลากลางคืน ว่าทั้งหมดนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

เบื้องต้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เปิดเผยก่อนสอบปากคำว่า ได้ฟังคลิปเสียงทั้ง 2 คลิปแล้ว ทั้งคลิปเสียงของลุงเปี๊ยก และคลิปเสียงของรองผู้กำกับการท่านหนึ่ง ซึ่งหากมีแต่เสียงลุงเปี๊ยกตนเองคงไม่เชื่อ แต่เมื่อมีเสียงของรองผู้กำกับการยืนยัน ก็เหมือนคำรับสารภาพแล้วว่ามีการคลุมถุงดำจริง แต่การทำแบบนั้นส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่การช่วยเหลือให้ลูกตำรวจพ้นผิด แต่เป็นวิธีการบีบบังคับเพื่อให้ได้คำรับสารภาพ และเร่งปิดคดีเพื่อทำผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดกฎหมาย เป็นการควบคุมตัวและสอบปากคำโดยมิชอบตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ป.วิอาญา และเมื่อกระบวนการผิดตั้งแต่ต้น ก็เชื่อว่ากระบวนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีการบังคับและชี้นำลุงเปี๊ยกด้วยเช่นกัน

แต่การจะดำเนินคดีกับตำรวจหรือบุคคลใด ก็ต้องสอบสวนลุงเปี๊ยกก่อน ว่าลุงเปี๊ยกจะให้การว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง หากลุงเปี๊ยกยืนยันได้ชัดเจน ก็จะต้องนำตัวลุงเปี๊ยกกลับไปสอบสวนที่ สภ.สระแก้ว เพื่อชี้ตัวผู้เกี่ยวข้อง โดยจะต้องหาความจริงให้ได้ว่ามีตำรวจคนไหนมีส่วนร่วมบ้าง และมีกี่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ใครเป็นผู้สั่งการ หรือเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งแม้จะไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่หากมีส่วนรู้เห็น ก็ถือว่าผิดด้วย ส่วนผู้กำกับการในฐานะผู้บังคับบัญชา แม้จะเพิ่งมารับตำแหน่งนี้ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าาวมีทั้งโทษทั้งทางอาญาและวินัย จะอ้างว่าล้อเล่นไม่ได้ เพราะการกระทำผิดเกิดขึ้นแล้ว ส่วนพยานหลักฐานจะเพียงพอหรือไม่ ตนเองได้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว รอเพียงสอบปากคำลุงเปี๊ยก

ส่วนลูกตำรวจนั้น จากการตรวจสอบประวัติการโทรศัพท์ที่โทรหาพ่อซึ่งเป็นรองสารวัตรสืบสวน สภ.อรัญประเทศ นั้น พบว่ามีประวัติการโทรช่วงตี 1 ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 2 และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่ออีกเลย จนกระทั่งผู้เป็นพ่อมาทราบว่ามีการจับกุมกลุ่มวัยรุ่นและลูกตนเองเกี่ยวข้องด้วย จึงได้รีบพาเข้ามอบตัว จึงเชื่อได้ว่าหลังก่อเหตุแล้วไม่ได้มีการขอให้พ่อช่วยเหลือทางคดีแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้ง 5 คน ยังอยู่ที่สถานพินิจฯ จังหวัดสระแก้ว แต่ก็จะประสานกับอธิบดีสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก หารือเรื่องการแยกคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 ออกจากกัน ไปอยู่ตามบ้านแรกรับจังหวัดต่างๆ พร้อมยืนยันว่าไม่มีผู้มีอำนาจประสานให้ผู้ปกครองเด็กเตรียมไปขอประกันตัวแน่นอน เพราะเด็กแต่ละคนต้องอยู่ในสถานพินิจฯ อย่างน้อย 3 ปี หรือจนกว่าจะอายุครบ 18 ปี


คลิปอีจันแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” แจงประเด็น “ลุงเปี๊ยก” ถูกกระสอบคลุมหัว-ล่ามโซ่ คดีป้าบัวผัน