สตช. ร่วม กสทช. ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ ลากสายเน็ตมุดดิน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วม กสทช. และกองกำลังบูรพา ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์–พนันออนไลน์ลอบลากสายอินเตอร์เน็ตมุดดิน-ข้ามแดน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดร่วมตรวจค้น เจ้าหน้าที่กลุ่มงานสนับสนุนคดีเทคโนโลยี กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว กองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ กสทช. นำกำลังเข้าตรวจค้นพร้อมตรวจยึดของกลาง (ตามบัญชีสิ่งของตรวจยึดแนบท้าย) 

สถานที่ตรวจค้น 

1. อาคารไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

2. บริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 

พฤติการณ์ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ศูนย์ AOC กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทำการปราบปรามการกระทำความผิดออนไลน์เชิงรุก เป็นที่มาให้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ตั้งชุดสายตรวจออนไลน์ เพื่อติดตามและตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย จากการสืบสวนพบเว็บไซต์กระทำความผิดทางออนไลน์ ที่มีการใช้บริการอินเตอร์เน็ต อยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

ล่าสุด วันที่ 1 เม.ย.2567 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงได้สนธิกำลังบูรณาการกับ ภ.จว.สระแก้ว, เจ้าหน้าที่ กสทช. และ กองกำลังบูรพา นำหมายค้นจากศาลอาญมีนบุรี และศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.สระแก้ว 

โดยจุดแรก เป็นอาคารสำนักงานขายคอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งที่ ไม่ได้มีการก่อสร้าง ลักษณะเป็นอาคารร้าง อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขอใช้บริการติดตั้งอินเตอร์เน็ต ภายในอาคารดังกล่าว ซึ่งเป็นสายอินเตอร์เน็ต แบบ leased line ความเร็วสูง (1000mbps/200mbps) ซึ่งมากกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตตามบ้านเรือนทั่วไปอย่างผิดสังเกต  

นอกจากนี้ยังพบว่า มีการลักลอบฝังสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ลากผ่านที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณด้านหลังอาคารร้างดังกล่าว เป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ก่อนจะข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา และพบอีกว่า มีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในลักษณะเดียวกัน มาติดตั้งยังอาคารดังกล่าว รวมทั้งหมด 6 วงจร ตรวจสอบพบหมายเลข IP ที่เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลขมีชื่อผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ต จำนวน 4 ราย แต่พบว่าผู้ชำระค่าบริการรายเดือน กลับเป็นบุคคลคนเดียวกัน 

ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนรถขุดดินจากกองกำลังบูรพาฯ เพื่อหาแนววางสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ฝังอยู่ใต้ดิน และลากผ่านไปประเทศกัมพูชา ระหว่างการตรวจค้นอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พบว่าสายอินเตอร์เน็ตฯ มีร่องรอยถูกตัดจำนวน 3 เส้น จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นอาคารดังกล่าวไม่ถึง 1 ชม. ปรากฏภาพชาย 2 คน เข้ามาทำการตัดสายอินเตอร์เน็ตดังกล่าว จึงได้ติดตามตัวชายทั้ง 2 คนมาสอบถาม ได้ความว่ารับคำสั่งจาก “นาย ป.” เจ้านายให้มาตัดสายฯดังกล่าว 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุด เข้าตรวจสอบบริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตฯ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ หลังพบว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อขอใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง ที่ จ.สระแก้ว พบตัว “นาย ก.” เป็นกรรมการบริษัทฯ และเป็นผู้ชำระค่าบริการอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้าง จากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างดังกล่าว และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง รวม 9 รายการ จากการสอบถาม “นาย ก.” รับว่าตนเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ตฯและติดตั้งสายสัญญาณด้วยตนเอง รับว่าจ้างมาจาก “นาย ป.” เป็นรายเดือน เดือนละ 300,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 2 ปี 

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม มาตรา 67 (1) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันและตัดวงจรการก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง หรือฉ้อโกงต่างๆ ลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือ สายด่วน AOC 1441 


คลิปอีจันแนะนำ

เจ๊อ้วน ลั่น เกลียดเข้ากระดูกดำ ยอมเข้าคุก บอกลูกสาวไม่ต้องประกันตัว