
ศรีวราห์ไล่บี้สำนวนเสือดำ ลั่นต้องรัดกุม ดิ้นไม่หลุด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร บี้พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนัก ก่อนสรุปสำนวนคดียิงเสือดำ โดยวันนี้เรียกประชุมทีมพนักงานสืบสวน และทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 เข้ารายงานความคืบหน้า มีประเด็นต้องสอบถามดังนี้
ประเด็นที่หน.พญาเสือ หรือนายชัยวัฒน์ ตรวจสอบตำแหน่งที่คาดว่าเป็นจุดชำแหละเสือ และรอยฉีกของกิ่งสะแกวัลย์ และที่ต้นไม้ยืนตายนั้น จะเป็นวิถีกระสุนจากการยิงเสือดำหรือไม่ เจ้าหน้าที่พฐ.7 เข้าตรวจสอบแล้ว ผลเป็นอย่างไร
พ.ต.ท.วุฒิศักดิ์ ....รายงานว่าเข้าตรวจสอบ ตามที่หน.พญาเสือตั้งข้อสงสัย 3 จุด คือ จุดยิง จุดที่เสือถูกยิง และรอยฉีกที่ต้นไม้ ผลคือ
ไม่น่าเชื่อว่า ตำแหน่งนั้นเป็นจุดยิง เนื่องจาก ปืนลูกซองแฝด ไม่คัทปลอกอัตโนมัติ ต้องหยิบหรือสลัดออก ดังนั้น คนร้ายจึงสลัดปลอกหลังยิง ซึ่งจะห่างจากจุดพบปลอกกระสุนแค่ไหน ตรวจสอบไม่ได้
ประเด็นที่สันนิษฐานว่าเสือถูกยิงเพราะพบกระจุกขน ก็ไม่สอดคล้องเพราะ รอยกระสุนที่เข้าหนังเสือ เป็นรอยที่ไม่อาจทำให้ขนหลุดเป็นกระจุกได้
กรณีการตรวจเขม่าดินปืน หาคนยิงเสือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซักถามละเอียดถึงขั้นตอนนี้
ปรากฏว่า วันเกิดเหตุ คือ วันที่ 3 ต่อเนื่อง 4 กพ. 2561 แต่กว่าเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนก็เป็นช่วง 5 ทุ่มวันที่ 5 แล้ว การตรวจเขม่า ถ้าเกิน 6 ชม. ก็ยากจะตรวจพบ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ให้ตรวจหาเขม่า แต่เชื่อว่า ผลไม่น่าปรากฏ ซึ่งเหตุนี้ทำให้ การพิสูจน์หลักฐานฟันธงได้ว่า ใครเป็นคนยิงเสือ รวมถึงไม่มีประจักษ์พยาน เพราะผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิเสธ
ประเด็น ว่าใครคือคนยิงเสือจึง ไม่อาจสรุปได้ ต้องใช้หลักฐานอื่นประกอบ
ประเด็นสุดท้าย คือ ประเด็นแจ้งข้อกล่าวหา กรณีติดสินบนเจ้าพนักงาน ทางเจ้าหน้าที่ ปปป. รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สตว์ป่าอยู่ในเหตุการณ์ 4 คน รวมหน.วิเชียร เป็น 5 คน คนที่ยืนไกลสุด คือ ระยะ 4 เมตร มีประจักษ์พยานพูด ซึ่งมีหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อหา ติดสินบนเจ้าพนักงาน