จับตาสอบวิเชียร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เมื่อวาน มีนัยยะสำคัญ!!!

จับตา สอบวิเชียร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เมื่อวาน มีนัยยะสำคัญ!!! เซซาโว่ ทางรอดเปรมชัย หรือไม่?

จับตา สอบวิเชียร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เมื่อวาน มีนัยยะสำคัญ!!!

เซซาโว่ ทางรอดเปรมชัย หรือไม่?

ภาพจากอีจัน


เมื่อวาน( 12 มีนาคม 2561) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หน.พญาเสือ นายวิเชียร ชิรวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ

นเรศวร และทีมงาน เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สอบสวนอีกครั้ง คราวนี้มีประเด็นซักถามถึง การเดินทางเข้าออกของนายเปรมชัย ระหว่างวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายเปรมชัย กรรณสูตและพวกเดินทางเข้าไปตั้งแคมป์ที่ เขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จนมีเหตุฆ่าเสือดำ ถลกหนังทำซุป ซึ่งในการสอบสวนเมื่อวานนี้ มีประเด็นที่จะเป็นนัยยะทางคดี คือ การเดินทางของนายเปรมชัย ในช่วงเวลาอยู่ในป่า


ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
อีจันแอบรู้ข้อมูลลับมาว่า นายเปรมชัยเข้าไปพักแรมในเวลา 15.30 น. พักข้างทางที่ห้วยประชิ 1 คืน รุ่งเช้า เวลา 8 โมง นายเปรมชัย ก็เดินทางไป #เซซาโว่ ซึ่งเป็นด่านในป่าทุ่งใหญ่ที่ไกลเลยด่านมหาราชไปอีก และขับรถกลับมาที่แคมป์ ในเวลาประมาณ 13.00 น. ก่อนถูกจับในเวลา 14.00 น.
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ข้อมูลที่แอบรู้มานี้ ดันไปสอดคล้องกับการเรียกสอบเจ้าหน้าที่ป่าไม้ #ประจำหน่วยเซซาโว่ หน่วยมหาราช และหน่วยทินวย รวม 3 นาย เมื่อวานนี้ ซึ่งหากข้อมูลนี้เป็นจริง มีคนเห็นเปรมชัยไปเซซาโว่จริง #แล้วเปรมชัยอ้างว่าไม่อยู่ในจุดเกิดเหตุได้จริง การพิสูจน์ว่า เขาร่วมฆ่าเสือดำ คงยากกกกก!!! เหตุผลตามนี้ 1 . การยิงเสือดำตัวนี้ มีข้อเท็จจริงพิสูจน์ได้ คือ คนร้ายใช้ปืนลูกซอง เพราะพบกระสุน ขนาด 20 ssg ที่หนังเสือ 3 เม็ด ตำรวจพยายามพิสูจน์ ว่า กระสุนที่พบนี้ มาจากปืนลูกซองแฝดของนายเปรมชัยที่ซ่อนไว้ในพงหญ้าหรือไม่
ภาพจากอีจัน
ผลการตรวจของพฐ. สรุปได้เพียงว่า ปืนลูกซองแฝดตรวจพบเพียงดีเอ็นเอมิกซ์ ระบุไม่ได้ ปลอกกระสุน ที่ตกอยู่ ตรวจรอยที่จานรองกระสุนแล้ว ยืนยันได้ว่า มาจากปืนกระบอกนี้แน่ๆ แต่จะเชื่อมโยงว่า ใครยิง …ตอบไม่ได้เช่นกัน 2. อุจจาระเปรมชัย ไม่พบดีเอ็นเอเสือดำ
ภาพจากอีจัน
3. ระบุไม่ได้ว่า เสือถูกยิงตำแหน่งไหน เวลาเท่าไร ตรงนี้สำคัญมาก เนื่องจาก หากเปรมชัยออกลูกว่า #ผมไม่อยู่ขณะมีการยิงเสือ เพราะตอนนั้นขับรถไปเซซาโว่ กว่าจะกลับมาก็นานหลาย ชม. ประมาณ 5 ชม. และเผอิญมีพยานยืนยันด้วยว่า เห็นเขาจริงที่นั่น งานนี้ลูกเพจคิดว่า เปรมชัยจะรอดข้อหา ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่หรือไม่เจ้าคะ? แต่ที่น่าคิดกว่านั้น คือ เสือดำถูกฆ่าวันไหนกันแน่ ?
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าพญาเสือ ตั้งข้อสังเกตน่าสนใจ โดยวิเคราะห์จากจุดพบไส้ของเสือดำ ที่ถูกซุกในซอกหินเอาใบไม้แห้งกลบอำพราง ซึ่งจุดนี้หัวหน้าพญาเสือฟันธงว่า น่าจะเป็นจุดชำแหละเสือ เนื่องจากที่รอยเลือดและรอยขนเสือลักษณะเป็นกลุ่ม ซึ่งตรงที่มีเลือดนั้น ยังมีแมลงวันตอมจำนวนมาก ห่างไปไม่ไกลเจออุจจาระเสือ จึงเชื่อว่า น่าจะเป็นจุดที่เสือหนีตาย วิ่งมาสิ้นลมตรงนั้น ก่อนมีคนอุ้มซากมาชำแหละที่จุดพบไส้ ตรงนี้มีหลักฐานสำคัญ คือ ซองเกลือ ที่ใช้หมดแล้ว 2 ถุง
ภาพจากอีจัน
หน.พญาเสือ ตั้งข้อสังเกตว่า การยิงเสือ น่าจะเกิดใน ช่วงขาเข้าคือ วันที่ 3 ก.พ. 2561 โดยมีเหตุผลสนับสนุนดังนี้ รถมาถึงด่านของป่าทุ่งใหญ่ ในเวลา 15. 30 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 2561
ภาพจากอีจัน
ถ้าเขาขับมาในเส้นทางนี้รถของ นายเปรมชัย และคณะจะมาถึงจุดชำแหละ เวลา 5 โมงเย็น ( ห่างจากด่าน 2 ชม. สอดคล้องว่าเสือดำมักออกหากินในเวลาใกล้ค่ำ ) ซึ่งหากมีการยิงเสือ ในเวลานั้น แล้วมีคนเดินไปหยิบถุงเกลือจากหลังรถไปหมักเนื้อเสือก็ดูสมเหตุ สมผล เพราะหากการยิงเกิดหลังจากที่คณะไปตั้งแคมป์ที่ห้วยปะชิ ซึ่งห่างไป 700 เมตร แล้วเดินย้อนกลับมาหายิงเสือ ที่จุดพบไส้ คนร้ายแล้วจะเอาเกลือจากไหนมาหมัก ถ้าเดินกลับไปเอาที่แคมป์ที่พักก็ต้องใช้เวลา เดินไป เดินกลับ กว่าครึ่งชม. หรือมีคนเดินเอามาให้ก็เสียเวลา สู้หิ้วซากกลับไปหมักเกลือที่แคมป์เลยไม่ดีกว่ารึ ด้วยข้อสันนิษฐานนี้ หน.พญาเสือจึงยังเชื่อว่า เหตุยิงเสือ น่าจะเกิดในคืนวันที่ 3 กพ.2561
ภาพจากอีจัน
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ เพราะเสือถูกชำแหละจนหาเวลาตายไม่ได้ แต่ก็ยังมีความหวังเพราะ คนระดับตำนานของพิสูจน์หลักฐานไทย พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตรองผบ.ตร. ที่ปรึกษาคดี เสือดำให้สัมภาษณ์ทุกครั้งว่า หลักฐานที่มีสามารถเชื่อมโยงหาคนกระทำผิดได้แน่นอน
ภาพจากอีจัน
ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ยังมีคำสัมภาษณ์ของท่านจรัมพรถึงการหาหลักฐานมัดในคดีเสือดำ แล้วจะค่อยๆเล่าให้ฟัง #ฝากลูกเพจติดตามเกาะติดคดีเสือดำด้วยข้อเท็จจริง ใครมีข้อมูลลับ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ประสานมาเถอะ ช่วยกันหาพยานหลักฐาน ดีกว่าด่าทอกันด้วยอารมณ์นะ