โศกนาฏกรรม บัสมรณะ 18 ศพ

อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด พรากชีวิต เพื่อน-พ่อแม่-ญาติพี่น้อง ของชาวบ้าน จังหวัดกาฬสินธุ์

โศกนาฏกรรม บัสมรณะ 18 ศพ
อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด พรากชีวิต เพื่อน-พ่อแม่-ญาติพี่น้อง ของชาวบ้านพื้นที่ ตำบลหลุบ และตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้เหมารถทัวร์รวมกันไปเที่ยวกันทะเลเป็นครอบครัว ที่จังหวัดจันทบุรี

ภาพจากอีจัน
ความสูญเสียครั้งใหญ่นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 21 มีนาคม 2561 รถทัวร์โดยสาร 2 ชั้นปรับอากาศ หมายเลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์ เดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรี และกำลังเดินทางมุ่งหน้ากลับจังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน และพุ่งข้ามเลน ไปชนเพิงขายของริมทาง จนรถพลิกคว่ำ จุดเกิดเหตุบริเวณทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-ราชสีมา ช่วงบริเวณโค้งมะกรูดหวาน หลักกิโลเมตรที่ 242-243 ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สภาพรถทัวร์พังเสียหายยับเยิน เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บกว่า 32 ราย
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ขณะที่เกิดเหตุป้าเจ้าเพิงของร้านค้าที่ได้รับความเสียหาย เล่าถึงนาทีระทึกให้อีจันฟังว่า ขณะเกิดเหตุ ได้เก็บร้านเรียบร้อยแล้ว และกำลังนั่งกินข้าว ตรงเพิงด้านหลังร้าน และได้ยินเสียงตูมดังมาก ฝุ่นตลบ รถได้เสยเข้ามาถึงตรงที่ตัวเองนั่งดูทีวีอยู่ ห่างจากตัวเพียงศอกเดียว ป้า เจ้าของเพิงร้านค้า เล่าต่อว่า พอตั้งสติได้ ก็เรียกหาหลาน พอเห็นหลานปลอดภัย จึงเริ่มสำรวจ ไป โดยใช้ไฟฉายส่องไปรอบ ๆ เห็นมีคนกระเด็นออกมานอกรถหลายคน ทั้งคนเจ็บ ทั้งคนตาย มีเสียงร้องเรียกให้ช่วยเหลือ จึงส่องหาคนที่รอด เพื่อทำการช่วยเหลือ
ภาพจากอีจัน


ระดมทีมกู้ภัยให้ความช่วยเหลือ

ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 ได้เข้าไปถึงเกิดเหตุ พร้อมเครื่องตัดถ่าง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ สภาพเห็น มีคนกระเด็นกระจัดจายออกมาอยู่นอกตัวรถส่วนหนึ่ง บางคนเสียชีวิตแล้ว บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังมีผู้โดยสารอีกจำนวนมากติดอยู่ใต้ซากรถและใต้ซากเบาะรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งมือให้ความช่วยเหลือ ซึ่งบรรยากาศขณะนั้นมีเสียงร้องขอความช่วยเหลืออยู่รอบ ๆ จึงพยายามส่องไฟหาผู้รอดชีวิตตารมเสียงร้อง เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีแสงสว่างไม่เพียงพอ และเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
โดยสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากระบบเบรกมีปัญหา หรือเบรกแตก เพราะก่อนเกิดเหตุระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ผู้รอดชีวิต บอกว่า ได้กินเหม็นไหม้ ก่อนจะได้ยินเสียงคนในรถตะโกนบอกว่ารถเบรกไม่อยู่ เบรกแตก จากนั้นรถก็วิ่งลงเนินเขาอย่างเร็ว และปีนข้ามแท่งปูนกั้นเกาะกลางถนน พุ่งข้ามไปยังฝั่งถนนอีกเลนชนเข้ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ และร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมทางอีกทั้งหมดรวม 5 ร้านจนพังยับเยิน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบระบบสัญญาณจีพีเอสของรถทัวร์คันดังกล่าวพบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุรถทัวร์วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้คาดว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากระบบเบรกของรถ

รุด ตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุเช้านี้ (22 มีนาคม) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวันครราชสีมา พร้อมด้วยพลตำรวจตรี วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และอำนวยการเจ้าหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลอย่างละเอียด ทั้งสภาพรถยนต์ และพื้นผิวการจราจรโดยรอบ เพื่อนำไปวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนสาเหตุขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นคาดว่า คนขับน่าจะขับรถมาด้วยความเร็ว เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง รถทัวร์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วเกิดควบคุมไม่อยู่ ก่อนจะเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปยังถนนอีกฝั่ง แล้วพุ่งชนร้านค้าที่อยู่ริมทาง พลิกคว่ำพังยับเยิน
ภาพจากอีจัน



การตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบเป็นทางลาดชัน ช่วงทางโค้งลงเขาวังน้ำเขียว ที่เกิดเหตุพบรอยขูดบนพื้นถนนเป็นทางยาวจากฝั่งถนนมุ่งหน้า จ.โคราช ครูดเป็นรอยยาว และชนเข้ากับแท่งแบริเออร์ ก่อนที่จะพุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนต้นก้ามปูและ ชนร้านค้าข้างทางได้รับความเสียหาย.

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
บรรยากาศ รพ.วังน้ำเขียว สุดเศร้า


ขณะเดียวกันบรรยากาศที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา มีญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตหลายรายเริ่มทยอยเดินทางไปติดต่อเพื่อขอรับศพผู้เสียชีวิต โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์ศพแต่ละรายให้ชัดเจนว่าเป็นใคร เพื่อมอบให้ญาติๆ นำศพผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
จนเมื่อเวลา 16.20 น. (22 มี.ค.) ขบวนรถกู้ภัยของหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 ได้เคลื่อนออกจากโคราช มุ่งหน้ากาฬสินธุ์ นำร่างเหยื่อทัวร์มรณะทั้ง 18 รายส่งกลับบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยการเคลื่อนย้าย มีขบวนรถตำรวจทางหลวงเป็นรถนำขบวน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนั้นหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 รับหน้าที่เคลื่อนย้าย ด้วยรถกู้ภัยกว่า 12-13 คัน
ภาพจากอีจัน


ซึ่งนายมมัส หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก 31 เปิดเผยว่า การเคลื่อนย้ายศพนั้นจะขับผ่านเส้นทางสาย 304 โคราช-บ้านไผ่ เข้าจ.มหาสารคาม ก่อนที่จะไปถึง จ.กาฬสินธุ์ ภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตทั้ง 18 ราย การเคลื่อนย้ายครั้งนี้จะไม่คิดค่าใช้จ่ายตามดำริของประธานกู้ภัยฮุก 31 อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าวจะผ่านจุดเกิดเหตุที่รถทัวร์ประสบอุบัติเหตุด้วย

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน




คนขับบัสมรณะ 18 ศพ เข้ามอบตัว สารภาพ เสพยาบ้าแก้ง่วง

ส่วนคนขับรถบัสมรณะ หลังจากเกิดเหตุได้หายตัวไป ซึ่งคาดว่าหลบหนี แต่ในช่วงบ่ายของวันนี้ (22 มี.ค.61) ชาวบ้านว่าพบนายกฤษณะ จุฑาชื่น อายุ 44 ปี คนขับรถทัวร์ เดินอยู่ริมถนนมุ่งหน้า อ.ปักธงชัย

ซึ่งมีร่องรอยบาดแผลตามร่างกายและลำตัวจึงเชิญมาที่ สภ.อุดมทรัพย์ เพื่อสอบถามจากการซักถามนายกฤษณะ ยอมรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถทัวร์คันที่เกิดเหตุ โดยตำรวจได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอลล์ แต่ไม่พบปริมาณแอลกอฮอลล์ แต่จากการตรวจปัสสาวะ
พบสารเมทแอมเฟนตามีน หรือยาบ้า ซึ่งผู้ต้องหาก็รับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาก่อนที่จะเดินทางมาจาก จ.จันทบุรี

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น นายกฤษณะ ยังให้การว่า เบรคมีปัญหา จากการที่ร้อยเวรได้ดูสภาพที่เกิดเหตุตั้งแต่เมื่อคืนมีร่องรอยการเบรคในที่เกิดเหตุก็เชื่อว่าเบรคไม่น่าจะมีปัญหา นอกจากนี้เท่าที่หาข้อมูลผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ขับรถยนต์ด้วยความเร็วและอาจคึกคะนองเนื่องจากเสพยาบ้า อีกทั้งไม่ชินทางในบริเวณดังกล่าวเพราะเป็นทางลงโค้ง จากการตรวจใบขับขี่ก็หมดอายุ จึงแจ้งข้อหาตามกฏหมาย