รู้จัก ‘ผงตุ๊กแก’ สูตรเด็ดโบราณ ใช้ทาตัว เช็กเวอร์จิ้นสาวๆ ได้

เปิดเคล็ดลับตามความเชื่อชาวจีนโบราณ ใช้ ‘ผงตุ๊กแก’ ทาตัว ก่อนมีเพศสัมพันธ์ พิสูจน์ ‘พรหมจรรย์’ ของหญิงสาวได้

เรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่บน เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง sohu ได้มีการกล่าวถึงประเพณีและความเชื่อในสมัยโบราณของประเทศจีนที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหญิงสาว ในยุคที่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังไม่เจริญก้าวหน้า ความเชื่อและประเพณีที่ดูไม่สมเหตุสมผลในปัจจุบันเคยถูกยึดถือเป็นธรรมเนียมที่สำคัญ หนึ่งในความเชื่อนั้นคือการรักษาพรหมจารีของหญิงสาวจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับ และส่งผลกระทบต่อสถานะทางสังคมอย่างมากในสมัยนั้น

การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวในสมัยโบราณจีนเกี่ยวข้องกับการใช้ผงตุ๊กแก หรือที่เรียกว่า ‘โส่วกงซา’ ซึ่งเป็นการนำตุ๊กแกตัวเมียมาขังไว้ และให้กินแร่ซินนาบาร์จนตัวเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มและตาย ผงตุ๊กแกที่ได้จากกระบวนการนี้จะถูกนำไปทาที่ร่างกายของหญิงสาวก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ และตรวจสอบหลังจากนั้นว่าสีแดงนั้นหายไปหรือไม่ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอยังคงเป็นพรหมจารี

ขอบคุณภาพจาก เว็บไซต์ข่าว sohu

วิธีการนี้มีการนำไปใช้ในวังหลวง และเคยปรากฏในละครเรื่องมังกรหยก อย่างไรก็ตาม ด้วยการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และความรู้ที่ก้าวหน้า วิธีการนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถเชื่อถือได้ และได้หายไปจากการใช้งานในที่สุด บทความนี้ย้อนกลับไปสำรวจประเพณีที่ดูแปลกประหลาดและไม่น่าเชื่อในมุมมองของปัจจุบัน และชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อความเชื่อและประเพณีเหล่านี้ บทความนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อที่เคยมีอยู่ในอดีต แต่ยังเป็นการสำรวจถึงผลกระทบทางจิตใจและสังคมที่เกิดขึ้นจากความเชื่อเหล่านี้

ผ่านเวลามาหลายศตวรรษ วิธีการเช่นนี้ได้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในขณะที่มนุษยชาติก้าวหน้าไปข้างหน้า ด้วยความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ความเคารพต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล การพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของประเพณีที่หากมองย้อนกลับไปอาจดูไม่สมเหตุสมผล แต่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความเชื่อและค่านิยมในสังคมของยุคนั้น

การเรียนรู้และทบทวนเรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้เราเข้าใจมุมมองทางประวัติศาสตร์ แต่ยังช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพในความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม สร้างความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจต่อวิถีชีวิตและความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้จากอดีตเพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต