5 เรื่องอัศจรรย์ โยมอุปัฏฐายิกา ที่อุทิศตน เพื่องานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุฯ 

เรื่องเล่าอัศจรรย์ ปาฏิหาริย์ ของ โยมอุปัฏฐายิกา “พี่เหมียว ฐนิวรรณ กุลมงคล” ผู้ที่อุทิศแรงกายแรงใจ เพื่องานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์

วันที่ 27 ธ.ค. 66 ถึงวันที่ 2 ม.ค. 67 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กำลังจะมีงานใหญ่ซึ่งเป็นงานสำคัญ นั่นก็คือ งานสมโภชพระอาราม 338 ปี โดยมีพุทธศาสนิกชน ที่มีแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา กลุ่มจิตอาสา รวมถึงบุคคลในแวดวงต่างๆ นำโดย พี่เหมียว ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย โยมอุปัฏฐายิกา ผู้ที่เปรียบเสมือนหัวเรือใหญ่ หรือแม่งานการประชาสัมพันธ์พิธีสมโภชในครั้งนี้ 

แต่กว่าที่การเตรียมการต่างๆจะมาถึงจุดที่สมบูรณ์ 100% นั้น ก็มีปัญหาหรืออุปสรรคเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ทั้งการประสานงานเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่การโปรโมท และประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้รับรู้ถึงการจัดงานดังกล่าว แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นและสำเร็จไปได้ด้วยดีราวกับมีอัศจรรย์ หรือปาฏิหาริย์ ซึ่งตัวของ พี่เหมียว ฐนิวรรณ ก็ได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ประสบพบเจอมาระหว่างดำเนินงานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุฯ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ฐนิวรรณ กุลมงคล ที่ทุกอย่างดูง่าย และราบรื่นสมดังใจปรารถนา 

มีคนขอให้เขียนถึงอัศจรรย์ หลายสิ่งที่เกิดขึ้น ในการมาทำงานสมโภชพระอาราม338 ปี 

ความอัศจรรย์ ที่ 1 

1.เจดีย์สีขาว สร้างเป็นหมุดหมาย ว่าที่นี่คือ ที่ตั้งพระอุโบสถวัดสลัก สำคัญอย่างไรหรือ หากไม่มีกำลังใจ ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพระประธานในพระอุโบสถแห่งนี้ 

พระยาเสือ ทหารเอก 1 ในทหารกล้าคู่พระทัยของพระยาตาก คงไม่มีชีวิตรอดไปรบเพื่อเอกราชชาติไทยในครั้งนั้น ท่านบุญมา มองเห็นช่อฟ้า ใบระกา หลังคาพระอุโบสถ จึงตั้งจิตอธิษฐาน หากรอดตายในครั้งนี้จะมาแทนคุณบูรณะวัดสลักแห่งนี้ แล้วจึงคว่ำเรือหลบอยู่ทั้งคืน จนปลอดทหารพม่าจึงพายเรือต่อไปจนถึงเมืองราชบุรี ไปชักชวนพี่ชายทองด้วง หลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีให้ไปร่วมกัน กู้ชาติ กับกองทัพพระยาตาก จนกู้เอกราชสำเร็จ 

ปลายปี 61 เคยมาใส่บาตรหน้าประตู 1 ทุกวันจันทร์ (วันตัวของพี่เหมียว วันพุธ วันตัวน้องนุช) มาใส่บาตรอยู่ราวๆ 6 เดือน ครั้งละ 60 รูป สลับกับเพื่อนๆคนร้านอาหารร้านอื่นๆ เคยเฝ้ามอง ครุ่นคิดว่า จากท่าน้ำ ท่าพระจันทร์ ท่านบุญมาจะมองเห็นพระอุโบสถวัดสลักได้อย่างไร (หมายถึงพระอุโบสถหลังปัจจุบัน)  

ในที่สุด ปลายเดือนมีนาคม เมื่อตกปากท่านผู้ใหญ่จะมาช่วยเปิดวัดมหาธาตุฯเพื่อการท่องเที่ยว เริ่มศึกษาเรื่องราวอย่างจริงจังจนในที่สุดได้ยินคำว่า คณะสลัก คือ ที่ตั้งวัดสลักเดิม และยิ่งน่าอัศจรรย์ยิ่งที่ เจ้าคุณราชวชิราธิบดี ท่านเมตตาปรับปรุงห้องวิทยุเก่าของตึกมหาธาตุวิทยาลัยชั้น 2 ให้เป็นสำนักงานคณะกรรมการจัดงานสมโภชพระอาราม 338 ปี 

สำหรับตัวเองแล้ว ตลอด 3 เดือนที่มาทำงานทุกวันมองออกมาเห็นเจดีย์สีขาว เห็นคณะสลัก 1-2-3-4 ซึ่งเป็นวัดสลักเดิม ยิ่งทำให้เกิดความฮึกเหิม มีพลังใจ การคิดการ ทำงาน เสมือนหนึ่ง ดวงพระวิญญาณของพระองค์ท่านบุญมา มาชี้นำให้ทำงาน ความเข้าใจซาบซึ้งเกินพรรณนา ที่สำนึกได้ถึงความรู้สึกเมื่อปี 2310 เมื่อใกล้จะถูกข้าศึกล้อมจับตัวได้แล้วมีปาฏิหาริย์ จากวัดสลักให้รอดอย่างน่าอัศจรรย์  

วันนี้ วันที่ 25 ธันวาคมใกล้วันสุกดิบของงานในวันที่ 27 วันเปิดงาน พระเจดีย์สีขาวอันงดงาม ปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งเช่นกัน เพียรเฝ้ารอวันนี้ วันที่ตำแหน่งที่ตั้งของ วัดสลัก จะสลักในใจคนไทย ท่านบุญมา ถูกพม่าจับไป พระยาตากก็จะขาด 2 พี่น้อง ทหารเอกคู่พระทัยร่วมรบ ร่วมเคียงคู่กู้เอกราช วันนี้ อาจจะไม่มีแผ่นดินรัตนโกสินทร์ อันรุ่งเรืองดังสุวรรณภูมิเฉกเช่นทุกวันนี้ มีหลายคน ฉงนใจ จะทำงานวัดอะไรใหญ่โตขนาดนี้ พวกเราทำงานให้วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์แต่ไม่ใช่ทำแบบงานวัด ทำด้วยความกตัญญูในฐานะที่เป็นคนไทย “มหาบุญ แทนคุณแผ่นดิน” 

ปอลอ: นางแบบภาพนี้ ใช้มือถือถึง 3 คนถ่ายให้เห็นท้องฟ้ายามเย็นแสงที่ทอดมาสู่พระเจดีย์ พรุ่งนี้ เปิดไฟ จะยิ่งงามกว่านี้หากท่านได้มายืนตรงนี้ ท่านจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่านบุญมา คว่ำเรือลอยคออยู่ 

พี่เหมียว ฐนิวรรณ กุลมงคล

ความอัศจรรย์ที่ 2 

เมื่อนั่งรถผ่านพระบวรราชานุสาวรีย์ ตรงมุมธรรมศาสตร์ ยกมือประนมขอพรพระองค์ท่าน จะสื่ออย่างไรให้คนไม่เบื่อน้อ พูด เล่าทุกวัน เมื่อ3 เดือนก่อน ดูมันไกลจัง อยู่ๆก็นึกถึง คุณลอร์ด ธวัชไชย ฤดีอมรเกียรติ คนแต่งเพลง ทำเพลง อุ่นไอรัก คลายความหนาว งานอุ่นไอรัก ดังติดสนิทหูคนไทยด้วยเพลงของคุณลอร์ดจริงๆ เปิดในสนามเสือป่าแล้ว อยากร้องตาม ด้วยความหมายและความไพเราะ เราอยากได้กลิ่นไอของอุ่นไอรัก กลับมา ยิ่งจัดงานสิ้นปี หนาวเล็กน้อย ชวนคนไทยแต่งไทยมาวัดมหาธาตุฯดีกว่า เพลงจะนำพาให้คนรู้จักวัดมหาธาตุฯได้ง่ายขึ้นไม่ใช่บอกไปวัดมหาธาตุฯ นู่น ตั้งGPS ไปอยุธยา หรือ ไปวัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน 

ช่วงนั้น ได้รับเชิญไปออกรายการ เคลียร์คัด ชัดเจน 25 นาทีที่ต้องอธิบายความหมายของวัดสลัก – สลักวาจา “เมื่อมีวาจาสัตย์ จึงเป็นวาจาสิทธิ์” พูดว่า จะกลับมา บูรณะวัดสลัก ท่านบุญมาก็กลับมาบูรณะวัดสลัก จนได้รับการสถาปนาเป็นพระอารามหลวงแห่งแรก แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ คุณลอร์ด รับโจทย์ไปวันพุธ ส่งเนื้อเพลงมาวันศุกร์ เข้าห้องอัดเสียงวันจันทร์ เนื้อเพลง โดน เก็บ key word สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดมาครบ แม้กระทั่งคำว่า “เสบียงบุญ เกื้อหนุนพระศาสนา” เลือกนักร้องตรงใจ

วันที่บันทึกเสียง ทีมอีจัน กลับจากหัวหินมาร่วมบันทึกภาพ เสียง เบื้องหลังพอดีๆ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายครึ่งแสนที่ถือว่า ถูกมาก ท่านทานบดี คณะกรรมการอำนวยการของเรา ดร.วีระกิตต์ เอกอัครวิจิตร ยินดีสนับสนุนทันที ไม่มีเงื่อนไข ทุกอย่างสำเร็จได้ดังใจปรารถนา เพื่อให้งานสมโภชครั้งนี้ สามารถมีสื่อออกไปให้สังคมรับรู้ เข้าใจ อยากมาเที่ยววัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต และถ้ามาแล้ว ให้อยากมาอีก 

ความอัศจรรย์ ที่ 3 

สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) มาช่วยวัดมหาธาตุฯ โดยส่วนตัว มีครูบาอาจารย์ชื่ออาจารย์หนึ่ง ทักว่ามาทำงานวัดมหาธาตุฯ เคยไปขอพร สมเด็จเฮงละยัง อ.หนึ่ง ซึ่งสร้างความอัศจรรย์ให้ไปขออโหสิกรรมที่อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย  

เมื่อไปถึงวัดมีพระยืนรอทำพิธีให้ และบอกว่า เจ้ากรรมนายเวร มารอขออโหสิกรรม ทั้งที่พลัดหลงไปถึงวัดนั้นแบบบังเอิญ เมื่ออาจารย์ที่เราศรัทธาทัก ตัวเองจึงนำเหรียญบาทและพวงมาลัยไปกราบ ข้างๆพระประธานในพระอุโบสถซึ่งมีอดีตอธิบดีสงฆ์ทุกรูปประดิษฐานอยู่ (เดือนตุลาคม) หลังจากออกพรรษามีคนตามมากราบ สมเด็จเฮง เต็มวัด มาทราบภายหลังว่า คุณเมฆ วินัยไกรบุตร มาขอขมาพระดีตามคำแนะนำของอาจารยฺไพศาล แสนไชย และยิ่งพีค เมื่อคุณหนุ่ม คงกระพัน พูดในรายการ กับคุณมดดำ กล่าวถึง สมเด็จเฮง วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ 

ในช่วงนั้น ต้องการกำลังใจอย่างยิ่งเนื่องจาก ยังมีคนร่วมบุญน้อยราย การสร้างความรับรู้เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ยากเหลือเกิน วัดอื่นๆ เค้ามู กัน สนั่น วัดเราเป็นพระอารามหลวง(เอกอุ1 ใน 6 ของประเทศ เชียวนะคะ) วัดมีชื่อเสียงด้านวิปัสสนากรรมฐานและการศึกษาจะสร้างความ มู ตามจริตศรัทธาของคนไทยขณะนี้ได้อย่างไรให้อยู่ในเส้นแห่งความพอดีๆ อยากให้คนหลั่งไหลมาก็อยากได้ 

อยู่ๆ อดีตอธิบดีสงฆ์ผู้ครบ100 ปีแห่งการเป็น เจ้าอาวาส (อธิบดีสงฆ์) 2466-2566 อะไรจะเลขสวยได้ขนาดนี้ ท่านเจ้าคุณสายเพชร นั่นเอง เจ้าคุณฯแม่นตัวเลข ผู้คนหลั่งไหลมา จนทางวัด ต้องอัญเชิญรูปเหมือนท่านออกมาให้สักการะที่ศาลาราย ตรงวิหารโพธิ์ลังกา ในฐานะจะเปิดวัดเพื่อการท่องเที่ยว ได้เห็นผู้คนมุ่งหน้ามากราบสมเด็จเฮง วันละหลายๆร้อยคนในที่สุด  วัดเราก็มีของดี “มู ตามสมัยนิยม” การันตีโดยอาจารย์ไพศาล แสงไชย คนดังแห่งยุคด้วยล่ะค่ะ 

สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี)

ความอัศจรรย์ที่ 4 

ได้รับการถวายคืน “พระแสงราวเทียน” 2 สิ่งที่ติดในใจ 1 สิ่งคลายไปแล้ว คือ บูรณะเจดีย์วัดสลัก ให้เป็นที่เคารพ สักการะ อีก 1 จุด ท่านเจ้าคุณราชวชิราธิบดี เคาะสั่งการให้ดำเนินการให้งดงามเหมาะสม แต่มีอีก 1 สิ่งที่ได้รับข่าวสารในเดือนตุลาคมว่า “พระแสงราวเทียน” ไม่ได้อยู่ในพิพิธภัณฑ์พระนครและมีผู้เฉลยว่า อยู่บ้านนักการเมือง และ เขาคงจะไม่คืนหรอก  

ด้วยความอยากได้คืน ก็ตั้งจิตทุกวันจะหาคนไปคุยขอคืน แต่ๆ ต้องทำงานสมโภชให้ดังเปรี้ยงก่อน เพื่อเรียกศรัทธา ตอนไปขอ จะได้ของ่ายๆ เล่าให้น้องมัทนา รักลูก ฟังว่า “พี่อยากได้มากกก” แต่อยู่บ้านนักการเมือง เหลือกำลังพี่แล้ว และก็มีภาระทำอย่างอื่นๆมากมาย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มัท มากอด แล้วบอกว่า “เจอดาบแล้วนะพี่” เขาจะเอามาคืนวันที่ 20  ธันวาคม 11 โมง แล้วก็เล่าอะไรไม่รู้เรื่อง ในใจไม่เชื่อ ก็พระคุณเจ้ายืนยันว่าอยู่บ้านนักการเมือง มีรูปถ่ายด้วยแน่ะ 

พระแสงราวเทียน

วันจันทร์ที่ 20 มีงานบุญเช้ามากที่บ้านอีจัน ใส่บาตร พิธีเสร็จ กินอาหารเช้าอร่อยมาก ไม่รอโอ้เอ้วิหารราย ทั้งที่ควรจะเถลไถลอยู่นานๆ คนสนิทๆทั้งนั้น รีบมาทำงาน รีบมาดูดาบ พอ 11 โมงกว่า น้องมัทโทรมาตาม ให้ลงไปคณะ 7 ไปดูดาบ เจ้าของจะนำของจริงมาเลย เดินลงจากสำนักงานผ่านหน้าทางเข้าพระอุโบสถจะเลี้ยวขวาไปคณะ 7  เจอทีมถ่ายทำสารคดี เดินออกมาจากพระอุโบสถ ป๊ะกันพอดีเลยชวนพี่ต่าย “ไปดูดาบกันจ้า” ทีมรอบันทึกเทปแม่ชีกฤษณา เลยว่างตามกันไป ไม่ได้นัดกันเลยจริงๆค่ะ เจอกันบังเอิญแท้ทรู เมื่อไปฟังเรื่องราวที่เชื่อถือได้ก็ได้พี่ต่ายนั้นแหละค่ะเขียนข้อมูล ที่กลายเป็นเนื้อข่าวที่เผยแพร่กันอยู่หากไม่บังเอิญเจอกันก็จะไม่มีคนทำข้อมูลที่ดีเช่นนี้ 

แต่.. อัศจรรย์ยังไม่จบค่ะ วันนั้น ด้วยการพูดคุยกัน อ.หนึ่ง ปริญญา มีจิตเจตนาที่อยากจะนำพระแสงราวเทียนมาคืนเงียบๆ เสมือนหนึ่งว่า “นอนหลับไป 1 ตื่น พระแสงราวเทียนก็กลับมา” ด้วยเจตนา ไม่อยากให้คนมาดราม่าใส่และเกรงจะเสื่อมเสียชื่อเสียงวัดเราก็เลยคุยกันว่า จะไม่ออกข่าว ระหว่างนั้นมูลนิธิพุทธภูมิธรรม ซึ่งเทวดาส่งมาให้มีอ.วิจักษณ์ สองจันทร์เป็นประธานมูลนิธิ ได้ขอรับเป็นเจ้าภาพบวงสรวงในเช้าวันที่ 27 ธันวาคม เวลา06.39 น.ณ พระบวรราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล นอนคิดอยู่ 2 คืน คืนวันพฤหัส ตื่นมา ตี 3 มานั่งพิมพ์ข้อความต่างๆเตรียมงาน เสมือนมีสิ่งดลใจ ทำไมเราต้องไม่พูดความจริง ความจริงเป็นสิ่งงดงามหากพูดความจริงว่า พระแสงราวเทียนนี้หายไปแล้วได้คืนกลับมาทันงานสมโภชพระอาราม จะเป็นพระบุญญาธิการของสมเด็จพระบวรราชเจ้า มากกว่า ทำเงียบๆกัน 

อ.หนึ่ง ปริญญา สัญญะเดช นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญศาสตราวุธ

เช้าวันนั้นโทรหาน้องมัท ให้แจ้งเจ้าของดาบว่า จะพูดความจริง พี่จะทำข่าวด้วยแหละให้ อ.หนึ่งเตรียมตัวและโทรกราบเรียนเจ้าคุณราชฯถามเบื้องต้นว่า “หลวงพ่อสบายใจหรือไม่คะ” ถ้าหากจะพูดความจริง เอาความสบายใจของหลวงพ่อเป็นหลัก เจ้าคุณราชฯตอบมาว่า “หลวงพ่อไม่ขัดข้อง” และท่านยังกรุณาพาไปกราบหลวงพ่อด้วยตนเอง พอดีวันนั้นพี่แหม่มวิเศษไก่ย่างจัดอาหาร ส้มตำไก่ย่าง ถวายพระ 10 ชุด จึงได้นำไปถวายหลวงพ่อ เมื่อไปกราบหลวงพ่อพีร์ รายงานเรื่องจะทำพิธีมอบคืน จะทำข่าวว่า อ. ปริญญาตามหาพระแสงราวเทียนที่หายไปอยู่หลายสิบปี 

พี่เหมียว ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย

เมื่อเจอแล้ว มั่นใจแล้วสละเงินส่วนตัวถึง 6 แสนบาท จะนำมาถวายคืนสมเด็จพระบวรราชเจ้า ถวายคืนเป็นสมบัติของวัดมหาธาตุฯ ตามเจตจำนงของพระองค์ท่านที่ถวาย “พระแสงราวเทียน” เมื่อ 230 ปีที่แล้ว ณ พระอุโบสถแห่งนี้ นัดกันที่วันที 25 ธันวาคม เวลา 9.39 นาที หากใครได้ชม Live เพจอีจัน และคุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้มาบันทึกเทปไว้อย่างละเอียด ความเป็นมาของอัศจรรย์ที่ 4 ก็เป็นดังนี้ 

พิมพ์ไป น้ำตาคลอไป รับปากว่า จะเขียนๆมาหลายวัน กว่าจะเบิกบานใจ ปลอดโปร่งโล่งใจ เขียนรวดเดียว 4 อัศจรรย์ เห็นทั้งสีหน้า แววตา ปริ่มๆของหลวงพ่อพีร์ในพระอุโบสถวันนี้ ให้ปิติยิ่ง หลวงพ่อพีร์ พระมหาเถระผู้ทรงศีลาจารวัตรอันผ่องแผ้ว  อายุท่าน94 ปีแล้ว ท่านได้ใน 2 สิ่งที่ติดค้าง 1. งานสมโภช 2. พระแสงราวเทียนคืนมา ส่วนตัวพี่เหมียวนั้นน 2 สิ่งในวันนี้ ที่เสร็จพร้อมกัน ทั้งเจดีย์วัดสลักที่จัดการได้สวย สง่า สมกับเคยเป็นที่ตั้งพระอุโบสถ ยังคิดว่า หากมีเหตุให้ต้องจากไป แบบฉับพลัน วันนี้ พรุ่งนี้ ดวงจิตของตัวเองก็จะไม่ติดค้างสิ่งใด ปลอดโปร่ง โล่งว่างสบายยิ่งนัก 

ความอัศจรรย์ที่ 5  

คือ ได้น้องต้อย กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง อดีตรองประธานบัตรเครดิต KTC ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้องค์กรจนโด่งดัง ประสบความสำเร็จทางธุรกิจสูงสุด น้องต้อย มีเครดิตส่วนตนที่ดีต่อ สื่อมวลชนใหญ่ น้อยมากมาย การได้คุณน้องต้อยมาบวกน้องอัยย์ แพ็คคู่ ทำให้วัดได้สื่อมวลชนทรงพลังที่อาจจะไม่ตรงสายวัด ท่องเที่ยว แต่สื่อทั้งหลายก็สละเวลามาด้วยตนเองกันคนละครึ่งวัน 

นอกจากน้องตา สาธิตา โสรัสสะ ที่สนิทกันและช่วยพี่มายาวนานตั้งแต่มีนาคม ก็มีคุณต้อยและอัยย์ที่ อิน กับ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร l Mahathatu Temple Bangkok สุดหัวใจ 

ทั้งนี้ สำหรับงานสมโภช 338 ปี วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 66 ถึง วันที่ 2 ม.ค. 67 ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ การพำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน, การบรรยายธรรม, การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย และ ฯลฯ โดยเฉพาะในวันที่ 31 ธ.ค. 66 จะมีการสวดมนต์ข้ามปี และตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ พระสงฆ์ 73 รูป