ตำรวจ CIB ทลาย แก๊งเวียดนาม อ้างชื่อหมอ หลอกขาย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ

ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB ร่วม อย. บุกล้างบาง ทลาย แก๊งเวียดนาม อ้างชื่อหมอ หลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ สร้างความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท

สอบสวนกลาง(CIB) บุกทลายเครือข่ายแก๊งนายทุนเวียดนาม แอบอ้างชื่อแพทย์ดัง หลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

วันนี้ (3 พ.ค. 66) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเตช ผบช.ก พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เขาวนาศัย รอง ผบช.ก ., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ.และ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงข่าวกรณี ทลายเครือข่ายนายทุนชาวเวียดนาม แอบอ้างบุคลากรทางการแพทย์ชื่อดังหลายราย พร้อมดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 ราย และตรวจยืดของกลาง จำนวน 27 รายการ มูลค่าความเสียหาย 61 ล้านบาท

พฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้คือ เมื่อวันที่ (4 เม.ย.66) กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับแจ้งจาก พญ.ณิชา (สงวนนามสกุล) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ศูนย์โรคผิวหนังโรงพยาบาลกรุงเทพ ถูกแอบอ้างเอา ชื่อ-นามสกุลของตน ไปทำการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์สุขภาพหลายรายการ โดยที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายศาลจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจค้น สถานที่เก็บและบรรจุสินค้าดังกล่าว พบ นายชัยพร (สงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นพนักงานของสถานที่ดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจคัน ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ Sorion Forte Plus ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Sorion HERBAL SKIN CREAM ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักยี่ห้อ ishou และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558, พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 14 รายการ

สอบสวนพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของ น.ส.แก้ว หรือ MISS TIEU N (สงวนนามสกุล) สัญชาติเวียดนาม ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา Miss TIEU NY และ น.ส.สุวิมล (สงวนนามสกุล) ในฐานความผิดคือ

1. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท

2. พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา 72 (4) ฐาน “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 6 (10) ฐาน “จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

4.พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 มาตรา 32(4) ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย” ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 32(1) ฐาน “ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง” ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

5. กรณีการนำเข้าข้อมูลเท็จและโฆษณาสินค้าดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ฐาน “นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับข้อหา “โฆษณาเครื่องสำอางเป็นเท็จ” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของกลางจำนวน 27 รายการ มูลค่าความเสียหาย 61,354,000 บาท นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หากพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใดๆ แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดปมฆ่า อ้อม เซลล์ขายรถ