รถดับ รถพัง หลังลุยน้ำท่วม แก้ไขอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง

วิธีแก้ไขปัญหา รถดับ เมื่อต้องลุยน้ำท่วม ควรดูแลอย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง ปัญหาชวนปวดหัว รู้ก่อนเตรียมรับมือให้พร้อม

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้มาพร้อมกับน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นเรื่องชวนหงุดหงิดสำหรับคนใช้รถ และคงไม่มีคนใช้รถคนใดอยากขับรถลุยน้ำอย่างแน่นอน แต่เมื่อจำเป็นต้องลุยน้ำควรระมัดระวัง หลังผ่านวิกฤตคุณควรตรวจสอบความเสียหายที่อาจเกิดจากการขับรถลุยน้ำ หรือตรวจเช็กสังเกตอาการขณะขับขี่ จันจะพาไปรู้กัน

สังเกตเครื่องยนต์

สิ่งหนึ่งที่ผู้เป็นเจ้าของรถที่ขับรถของตนเองประจำน่าจะรับรู้ได้ก็คือ เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ ดังนั้นหลังจากลุยน้ำท่วมแล้วจึงควรสังเกตว่าเครื่องยนต์ของรถมีลักษณะอย่างไร

หากพบว่าเครื่องยนต์มีอาการกระตุก หรือมีอาการอื่นที่ไม่ปกติเกิดขึ้นในขณะขับ เช่น เร่งไม่ขึ้นหรือเสียงดัง ทางที่ดีควรจอดรถแล้วตรวจสอบ โดยสิ่งแรกที่ควรดูคือก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง หากพบว่ามีสีเหมือนกาแฟใส่นมหรือเหมือนนมขุ่นๆ แสดงว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ สิ่งต่อมาที่ควรดูคือกรองอากาศ เพราะหากน้ำเข้าทางนี้ กรองอากาศและท่อไอดีจะเปียก

สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ก็คือหากมีน้ำเข้าเครื่องยนต์ควรให้ช่างตรวจสอบและทำการแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อป้องกันความเสียหายหนักขึ้นตรวจสอบที่ภายในกล่องฟิวส์ดูว่ามีความเสียหายหรือไม่ หากมีความเสียหายที่ฟิวส์ใดก็ควรเปลี่ยนดูโดยอ้างอิงจากที่ฝากล่องฟิวส์รถยนต์ รวมไปถึงดูกล่องอีซียูและเช็ดให้สะอาดหากเปียกน้ำ นอกจากนี้ควรตรวจสอบไฟต่างๆ ภายนอกรถด้วย โดยหากรู้สึกว่าอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ ควรถอดขั้วต่อแบตเตอรีออกเพื่อรอให้ช่างตรวจสอบและประเมิน

เมื่อรถดับกลางน้ำท่วมควรทำไง

ก่อนอื่นเลย ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ในน้ำเด็ดขาด เพราะนั่นจะยิ่งทำให้รถพังเร็วขึ้น เราควรตั้งสติก่อนแล้วบิดกุญแจดับเครื่องจากนั้น

1. ออกจากรถเพื่อขอความช่วยเหลือในการเข็นรถหนีน้ำไปที่สูงหรือที่แห้ง

2. เปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อตรวจสอบว่า รถดับจากน้ำเข้าระบบกรองอากาศหรือดับจากระบบไฟฟ้าเปียกน้ำด้วยการ

2.1 มองหาหม้อกรองอากาศรถของเราให้เจอก่อน (อาจจะต้องเปิดคู่มือการใช้งานรถเพราะรถแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์อยู่คนละตำแหน่งกัน)

2.2 เปิดฝาหม้อกรองอากาศออก เพื่อดูแผ่นกรองว่ายังแห้งอยู่ไหม ถ้ายังแห้งดีอยู่รถก็น่าจะดับจากระบบไฟโดนน้ำแล้วลัดวงจร ซึ่งก็อาจจะแก้ไขเพื่อให้เราขับรถกลับบ้านได้ (ในกรณีนี้เราต้องรู้ว่าชิ้นส่วนไหนอยู่ตรงไหน แต่ถ้าไม่มั่นใจ แนะนำให้เอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการดีที่สุด)

3. เมื่อรู้สาเหตุแล้วเราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วย (ในกรณีที่เรารู้ว่าชิ้นส่วนไหนอยู่ตรงไหน)

3.1 ถ้ารถดับเพราะระบบไฟฟ้า ให้เราหาที่เติมลมยางที่มีอยู่ตามปั้มน้ำมันมาเป่าไล่น้ำออกไป เช่น ที่ขั้วแบตเตอรี่ ที่บริเวณหัวเทียนให้ถอดจุ๊บยางออกมาเป่าลมให้แห้ง

3.2 รถที่ดับเพราะน้ำเข้าระบบกรองอากาศหรือเข้าท่อไอดี งานนี้เราเรียกใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัทประกันดีที่สุด ซึ่งในบางบริษัทประกันมีบริการช่างซ่อมรถยนต์ฉุกเฉินให้ด้วย

ตรวจสภาพห้องโดยสารหลังรถลุยน้ำ

สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ต้องสำรวจความเสียหาย หรือความผิดปกติจากการลุยน้ำท่วมคือห้องโดยสาร แม้คุณจะเคลื่อนรถช้า ๆ ขณะลุยน้ำ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่น้ำจะซึมผ่านส่วนที่เป็นซีล หรือรอยต่อต่าง ๆ เข้ารถยนต์ รวมถึงรถที่ขับสวนทางอาจทำให้เกิดคลื่นน้ำจนท่วมถึงท่อไอเสีย ทำให้น้ำไหลเข้าห้องโดยสารในที่สุด

ข้อควรปฏิบัติ: หลังการขับรถลุยน้ำ ควรตรวจสอบความเสียหายทันทีหรือภายในหนึ่งถึงสองวัน โดยให้สังเกตไปที่พรมปูพื้นหากรู้สึกว่าด้านใต้พรมมีน้ำแฉะ ให้รีบนำพรมออกตากแดด และไม่ควรทิ้งให้น้ำขังอยู่ภายในรถ ควรดูดหรือเช็ดออกให้แห้งทันที จากนั้นเปิดประตูรถทั้งสี่ด้านเพื่อระบายอากาศ ไร้ความชื้นในห้องโดยสาร สำหรับรถยนต์บางรุ่นจะมีโมดูลควบคุมถุงลมนิรภัยอยู่ที่ใต้เบาะคนขับ ก็ควรดูแลไม่ให้มีความชื้นด้วยเช่นกัน

รถดับเมื่อขับลุยน้ำท่วมเกิดจากอะไร ?

ตรวจสอบแก้ที่สาเหตุว่ารถลุยน้ำท่วมแล้วรถดับ สาเหตุที่แท้จริงนั้นอาจเกิดจาก 2 สาเหตุหลักก็คือ

ระบบไฟฟ้าในรถเปียกน้ำ : ทำให้กล่องควบคุมระบบไฟฟ้าหรือ ECU (Electronic Control Unit) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรทำให้เครื่องดับ

น้ำเข้าระบบกรองอากาศ(ท่อไอดีของเครื่องยนต์) : ทำให้น้ำเข้าห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ส่งผลให้หัวฉีดเชื่อเพลิงได้รับความเสียหายหรือในบางกรณีอาจเกิดจากน้ำเข้าก้านวัดระดับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ดับ

ผลเสียรถดับที่แช่อยู่ในน้ำ !

ระดับโคม่าโดยเฉพาะรถที่น้ำเข้าระบบกรองอากาศ เพราะการทำงานของรถนั้นหลื่อลื่นด้วยน้ำมันหลื่อลื่นและอาศัยการอัดอากาศให้เกิดแรงดันทำให้เครื่องยนต์ทำงาน แล้วถ้าเราขับรถเครื่องร้อนๆ อยู่ไปเจอน้ำเข้าเครื่องจากช่องกรองอากาศดี ซึ่งก็จะทำให้เครื่องน๊อกทันทีทั้งจากความเย็นของอุณหภูมิน้ำและค่าความหนืดของน้ำที่ต่างจากอากาศที่ไหลเข้าไปที่ห้องเผาไหม้(เข้าลูกสูบ)ในรถเครื่องยนต์เบนซิน หรือเข้าไปที่หัวฉีดในรถเครื่องยนต์ดีเซล หรือเราพูดกันง่ายๆ ได้เลยว่าเครื่องพัง ต้องไปอู่หรือศูนย์บริการเพื่อผ่าเครื่องล้างเอาน้ำออกเท่านั้นจริงๆ

นอกจากเครื่องยนต์แล้ว ยังมีระบบเบรก ระบบเพลา ระบบลูกหมากต่างๆ ที่มีลูกยางห่อหุ้มอยู่ที่อาจจะมีน้ำเข้าไปขังอยู่ รวมถึงระบบเกียร์ในเฟืองท้าย สายพานและหัวเทียนด้วยในรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องล้างด้วยน้ำมันเพื่อเอาน้ำออกให้หมด และควรดูแลห้องโดยสารระบบไฟโดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ที่อาศัยกล่องควบคุมระบบไฟฟ้าหรือ ECU (Electronic Control Unit) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการควบคุมการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ และประตูที่อาจเกิดสนิมขึ้นได้ด้วย

ใครที่ขับรถหน้าฝนเป็นประจำ อย่าลืมตรวจสอบความพร้อมอยู่เสมอ ดูว่าประกันของคุณคุ้มครองแค่ไหน เมื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินเราจะได้ขอความช่วยเหลือได้อย่าทันท่วงที ซึ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้การจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เจอสถานการณ์ขับรถลุยน้ำคงเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามเราสามารถป้องกันได้รวมถึงสามารถตรวจหาสาเหตุในเบื้องต้นได้เพียงหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะเมื่อรู้สาเหตุจะช่วยให้คุณประหยัดค่าจ้างช่างซ่อมลงได้ด้วย

คลิปอีจันแนะนำ
นาทีช่วยชีวิตนักเรียน รถรับส่งติดกระแสน้ำหลาก!