จากกรณีที่พ่อและแม่ของ น้องจ๋า วัย 23 ปี เข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี หลังคาใจการเสียชีวิตของลูกสาว โดยพ่อแม่ ระบุว่า ลูกไปเที่ยวที่มาเลเซีย แล้วพลัดตกตึกเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าการตายของ น้องจ๋า มีเงื่อนงำ และจะไม่ยอมเผาศพของลูก จนกว่าจะรู้สาเหตุที่แท้จริง
ความคืบหน้าล่าสุด (22 ม.ค. 67) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พา พ่อและแม่ของ น้องจ๋า เดินทางมายังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อฟังผลชันสูตรศพ
นางปวีณา กล่าวภายหลังรับฟังผลชันสูตรเบื้องต้นจาก พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ (สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นต.รพ.ตร. แพทย์ผู้ผ่าชันสูตรศพน้องจ๋า ว่า แพทย์ระบุผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ตามร่างกายมีแผลถลอกฟกช้ำเป็นรอยครูดทั่วตัวที่คาง ไหล่ ก้น หลัง ต้นแขน และขาหนีบ ซึ่งเกิดจากการถูกของแข็งที่ไม่มีคมก่อนเสียชีวิต
นอกจากนี้ยังพบว่า กระดูกกะโหลกด้านหลังแตก กระดูกต้นขาหัก กระดูกข้อเท้าหัก กระดูกเชิงกรานหัก กระดูกสันหลังหัก ซี่โครงซ้าย-ขวา ด้านหลังหัก อวัยวะทุกส่วนหักหมด โดยแพทย์ยังได้ตัดชิ้นส่วนตับเพื่อไปตรวจดูสารพิษ และตัดเล็บไปตรวจหาเนื้อเยื่อหรือ DNA รวมถึงทำการเก็บสารคัดหลังในช่องคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจจากห้องแล็บเพื่อทราบผลอย่างละเอียด
ซึ่งครั้งนี้เป็นการผ่าตัดครั้งที่ 2 จึงมีข้อจำกัดเนื่องจากมีการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกมาจากที่มาเลเซียและมีการฉีดฟอร์มาลีนมาแล้ว ทำให้มีข้อจำกัดในการตรวจสารพิษเพราะหาเลือดไม่ได้เลยเพราะเลือดหมดแล้ว ปัสสาวะก็ไม่มี
นางปวีณา กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้ประสาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในการประสานกับทางตำรวจสากลและตำรวจมาเลเซียเพื่อขอผลชันสูตรศพของน้องจ๋าในครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของน้องจ๋ายังเกิดความกังขาในเรื่องรอยช้ำตามร่างกายก่อนเสียชีวิต แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ครั้งแรกที่มาเลเซียที่จะนำมาพิจารณาร่วมด้วยว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากสาเหตุใด
พ่อน้องจ๋า เผยว่า พ่อแม่ก็เสียใจ ยังทำใจไม่ได้ เพราะมีลูกสาวคนเดียวเพิ่งเรียนจบก็หวังจะเป็นเสาหลักครอบครัวและดูแลพ่อแม่ในยามชรา แต่ไม่ว่าผลการตรวจชันสูตรจะออกมาว่าอย่างไรคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำใจ ขอขอบคุณนางปวีณา หงสกุล ที่ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์แม่ของน้องจ๋าที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกสาวและยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตของลูกที่แท้จริง ได้เป็นลมหมดสติล้มทั้งยืน นางปวีณา ผู้สื่อข่าว และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำตัวเข้าตรวจรักษาที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ตร. ทันที