“พัชรวาท” สั่งเร่งตรวจแคดเมียม หากโรงงานผิด เตรียมยึดใบอนุญาต หวั่นอันตรายต่อประชาชน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ สั่งเร่งรายงานผลการตรวจสอบสารแคดเมียม ที่โรงงาน จ.สมุทรสาคร หวั่นกระทบความรู้สึกประชาชน เตรียมยึดใบอนุญาตโรงงานหากกระทำผิด

จากกรณีที่มีการตรวจพบ กากแคดเมียม กว่า 15,000 ตัน ที่โรงงานแห่งหนึ่งใน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนนั้น

ล่าสุดวันนี้ (5 เม.ย. 67) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีพบสารแคดเมียมนี้ ว่าได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแล้ว ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว

ในส่วนของ กากแคดเมียมและกากสังกะสี ซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจ จึงได้สั่งการไปยังกรมควบคุมมลพิษให้เก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหาสารปนเปื้อนทั้งในโรงงาน ในอากาศ และแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อรายงานผลให้ประชาชนรับทราบโดยด่วน เพราะหากใช้เวลานานเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนได้

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า นอกจากตรวจสอบสารปนเปื้อนแล้ว ขอให้กรมควบคุมมลพิษส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบประชาชนเพื่อให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิตในช่วงนี้ด้วย พร้อมกันนี้กรมควบคุมมลพิษต้องร่วมมือกับผู้ว่าฯ ในการให้คำแนะนำ ปรึกษา ในด้านวิชาการ ช่วยดูแลการขนย้ายและเก็บรักษาแคดเมียมให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด

โดยจะมีการตั้งคณะทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูแลเรื่องนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และยังได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบโรงงานถลุงแร่ว่ามีการจัดทำ การประเมินผลการกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และได้ปฏิบัติตามมาตรการ EIA ที่กำหนดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่าสภาพแวดล้อมมีสารปนเปื้อน ก็ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายโดยเคร่งครัด รวมถึงค่าการฟื้นฟูบริษัทต้องรับผิดชอบตามหลักผู้ก่อมลพิษ หรืออาจจะต้องถูกยึดใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่ให้อนุญาตด้วย

อันตรายจากแคดเมียม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ การตรวจสอบจะเป็ร