“เนติวิทย์” ประกาศอารยะขัดขืน ไม่เข้าเกณฑ์ทหาร พร้อมรับผลทางกฎหมาย

ปีนี้ผ่อนผันไม่ได้แล้ว! “เนติวิทย์” ประกาศอารยะขัดขืน ไม่เข้าเกณฑ์ทหาร พร้อมรับผลทางกฎหมาย ชี้ “ขัดหลักสิทธิมนุษยชน ล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ”

แม้เกณฑ์ทหาร ปี 2567 นี้ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเคลื่อนไหวการเมือง จะไม่สามารถผ่อนผันได้แล้ว แต่ก็ยังขอยืนยันจุดยืนเดิม ที่จะไม่ร่วมเกณฑ์ทหาร และพร้อมจะรับผลทางกฎหมายโดยไม่หนีไปไหน 

วันนี้ (5 เม.ย.) นายเนติวิทย์ ได้โพสต์ภาพตนและเพื่อน ถือป้ายกระดาษระบุข้อความ #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร และ #EndConscription พร้อมอ่านประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านเกณฑ์ทหาร ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลบางปู จ.สมุทรปราการ ผ่านเฟซบุ๊ก Netiwit Ntw โดยระบุว่า 

“วันนี้เวลา 09.30 น. ผมได้ไปประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านเกณฑ์ทหารที่หน่วยตรวจเลือกฯ ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลบางปู ปีนี้ผมไม่สามารถผ่อนผันได้ แต่ก็ยังขอยืนยันจุดยืนเดิมที่จะไม่ร่วมเกณฑ์ทหาร และพร้อมจะรับผลทางกฎหมายโดยไม่หนีไปไหน (ตามแถลงการณ์ที่ได้ลงไปก่อนหน้านี้)” 

โดยการแถลงการณ์อารยะขัดขืนต่อต้านการเกณฑ์ทหาร ของนายเนติวิทย์ ระบุว่า… 

“ข้าพเจ้าประกาศจุดยืนตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 ว่า เมื่อถึงเวลาต้องรับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร ตนจะไม่เข้าร่วม ด้วยเหตุผลว่า การบังคับพลเมืองที่ไม่เต็มใจรับราชการทหารนั้น ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน ความเชื่อทางศีลธรรม ทั้งยังล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ และมีส่วนทำให้สังคมไทยไม่เป็นประชาธิปไตย 

บัดนี้เวลาผ่านไป 10 ปีแล้ว ข้าพเจ้าขอยืนยันจุดยืนเดิมของตน  

การเกณฑ์ทหารไม่ได้นำมาซึ่งความเสมอภาคของพลเมือง แต่เป็นระบบที่เหลื่อมล้ำต่ำสูง หลายมาตรฐาน ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็นใจคนจำนวนมากที่ไม่อยากเกณฑ์ทหารจึงเลี่ยงไปเรียนรักษาดินแดน พยายามเข้ารับราชการ เลือกบวชเรียนเพื่อให้ได้นักธรรม หรืออาศัยเกณฑ์อื่น ๆ ในการหลีกหนี อย่างไรก็ตาม มีคนอีกมากไม่อาจเลี่ยงพ้น และต้องเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารโดยไม่เต็มใจ 

ประชาชนชาวไทยทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันที่จะเลือกว่าตนจะเข้ารับราชการทหารหรือไม่ โดยไม่ต้องถูกบังคับ ไม่ควรต้องกล้ำกลืนฝืนใจหรือต้องหาทางหลบเลี่ยง อันจะไม่เป็นผลดีแก่พลเมือง หรือประเทศชาติ

 

ข้าพเจ้าสามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงได้ด้วยประการทั้งปวงดังเช่นที่คนอื่นๆ ทำ ซึ่งข้าพเจ้าก็เคารพในการตัดสินใจเหล่านั้น แต่ข้าพเจ้าคิดว่าการปฏิเสธด้วยการแสดงออกอย่างเป็นสาธารณะว่าจะไม่ร่วมการเกณฑ์ทหารนั้นเป็นเผชิญกับปัญหาตรงๆ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องทำเพื่อสิทธิเสรีภาพของพลเมืองที่ดีขึ้น และเพื่อให้กองทัพที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสมกับยุคสมัย 

ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอประกาศกระทำ “อารยะขัดขืน” ไม่เข้าร่วมเกณฑ์ทหาร ข้าพเจ้าทราบดีถึงผลทางกฎหมายที่จะตามมา และหวั่นใจอยู่ไม่น้อย แต่หากผลที่ข้าพเจ้าต้องรับ จะแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเพื่อนพลเมืองชาวไทยคนอื่นๆ ข้าพเจ้าก็เต็มใจและพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป 

ในวันนี้ ข้าพเจ้ามาแสดงตน ณ ที่รับการตรวจเลือกนี้ เพื่อยืนยันจุดยืนของตนตลอดสิบปี  และเพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ข้าพเจ้ามิได้หลบเลี่ยง มิได้หลบหนี และไม่เคยคิดจะหลบหนีไปไหน”