ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ในฐานะ หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (1 พ.ย. 66) ตนเดินทางมาตามคำสั่งของสำนักกฎหมายสภากาชาดไทย ที่เรียกสอบสวนตนเอง แต่ยังไม่ได้ระบุว่า จะสอบสวนเรื่องอะไร ซึ่งก็คาดว่า จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่ตน ยุติโครงการวิจัย โรคที่อาจจะระบาดจากสัตว์สู่คน ซึ่งเป็นโครงการที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เคยดำเนินการวิจัยมานานกว่า 10 ปี และตนเองเป็นคนตัดสินใจยุติการวิจัย
หมอธีระวัฒน์ เปิดเผยกับทีมข่าวอีจันว่า การวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งมายุติลงในปี 2020 เป็นการวิจัยที่จะนำเอาตัวอย่างเชื้อไวรัสต่างๆที่เกิดในสัตว์ มาวิจัยว่า มีโอกาสที่เชื้อเหล่านี้ จะแพร่กระจายไปสู่คนได้หรือไม่ ซึ่งหมอธีระวัฒน์บอกว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐ เป็นคนออกทุนให้โครงการวิจัยนี้ และไม่ได้มีแค่ประเทศไทย ที่ทำการวิจัยนี้ ยังมีอีกหลายประเทศจากทวีปเอเซีย และยุโรป ทำโครงการวิจัยนี้ด้วย โดยเฉพาะประเทศจีน และสิงคโปร์
หมอธีระวัฒน์ เล่าว่า การวิจัยดำเนินมานานร่วม 10 ปี แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ว่าจะเจอไวรัสหรือเชื้อโรคใหม่ ที่เสี่ยงจะติดต่อสู่คน และหาทางป้องกันรักษาได้ แต่ทางทีมวิจัย กลับต้องมีความเสี่ยงเอง เพราะการเก็บตัวอย่างแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ด้วยตัวเอง อาจจะทำให้สัมผัสและพาเชื้อโรคกลับมาที่ห้องวิจัยได้
จนถึงปี 2019 ทางทีมวิจัยจึงได้หารือกันว่า ควรจะยุติการวิจัยที่มีความเสี่ยงแบบนี้ และหมอธีระวัฒน์ ก็เป็นคนแจ้งไปยังสหรัฐอเมริกา และทาง รพ.จุฬาฯ ว่าจะยุติการวิจัย โดยมีข้อชี้แจงที่ชัดเจน ว่าเหตุผลหลักคือการรักษาความปลอดภัย และยุติการวิจัยไปในปี 2019 ก่อนที่ไวรัสโควิดจะระบาด
ซึ่งหมอธีระวัฒน์ แสดงความเห็นถึงการสอบสวนของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่มีข้อสังเกตว่า การระบาดของเชื้อ โควิด ไม่ใช่สิ่งที่เกิดเองตามธรรมชาติ แต่มาจากการวิจัยนี้ ที่ทางสถาบันวิจัยไวรัสเมืองอู่ฮั่น ทำรั่วไหลออกมา
ส่วนการที่หมอธีระวัฒน์ ถูกเรียกมาสอบสวนครั้งนี้ คุณหมอคาดว่าจะมี 2 ประเด็นหลัก ที่สืบเนื่องมาจากการที่ สภากาชาดไทยได้ติดต่อมาขอตัวอย่างการวิจัย เพื่อนำไปวิจัยต่อ แต่ตนเองได้แจ้งกลับไปว่า ทำลายทิ้งไปหมดแล้ว โดยคาดว่าการสอบสวนจะแบ่งเป็น 2 ข้อ ได้แก่
1.หมอธีระวัฒน์เป็นเจ้าของตัวอย่างที่เก็บได้จากการวิจัยจริงหรือไม่
2.มีสิทธิ์ในการทำลายตัวอย่างนั้นๆหรือไม่
หมอธีระวัฒน์บอกว่า ส่วนตัวมองว่าเราสามารถทำลายได้ เพราะเจ้าของทุนก็ปิดทุนไปแล้ว และการเก็บตัวอย่างเหล่านั้นไว้ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร และยังเป็นอันตรายหากหลุดรอดออกมาจากห้องวิจัยอีกด้วย
การที่เรายุติการวิจัยนั้น ได้แจ้งกับทางองค์การอนามัยโลก (who) แล้ว พร้อมทั้งประกาศจุดยืนชัดเจน ประกอบกับการที่เคยมีองค์กรที่ไม่เกี่ยวการเมือง ของสหรัฐอเมริกา เคยสืบว่า โครงการวิจัยนี้ ได้ประโยชน์คุ้มค่ากับตัวเงินที่ลงทุนหรือไม่ และเคยมาถามตน ซึ่งก็บอกความเห็นตัวเองไปแล้ว จึงเชื่อว่า ไม่น่าจะใช่ประเด็นหลักในการเรียกสอบครั้งนี้
หลังจากพูดคุยกับสื่อมวลชน หมอธีระวัฒน์ก็ได้เข้าไปยังห้องสอบสวน ท่ามกลางกลุ่มลูกศิษย์และแฟนคลับ ที่ตามมาให้กำลังใจกันอย่างหนาแน่น ซึ่งหลังจากนี้การสอบสวนจะออกมาในรูปแบบไหน อีจันจะติดตามความคืบหน้ามารายงานให้ทราบนะครับ
คลิปอีจันแนะนำ
ดีเจดาด้า โพสต์คลิประบาย นี่เหรอ ระบบราชการไทย?