เปิดใจพ่อแม่น้องเฉลิมชัย หลังถูกนายเบี้ยวยิงเสียชีวิต ก่อนฝังอำพรางศพ


ตำรวจใช้เวลาสืบเสาะหาคนร้ายไม่นานก็พบว่า นายประมุข หรือนายเบี้ยว เป็นฆาตกร จนกระทั่งวันที่ 13 มี.ค. 62 ตำรวจก็สามารถตามจับกุมนายเบี้ยวได้ที่เพิงพักในพื้นที่ ต.บึงนคร ก่อนนำมาแถลงการณ์จับกุมในช่วงเช้าวานนี้ (14 มี.ค.62)

อีจันมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อแม่ของน้องเฉลิมชัย โดยพ่อเล่าว่า ออกตามหาลูกตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 62 ถามผู้คนที่อยู่แถวบ้านบอกว่าน้องเฉลิมชัยออกไปยิงนก ตนจึงตามไปที่ยิงนกกลับไม่พบ เลยกลับมาที่บ้านก่อน และออกตามหาอีกครั้ง จนพบกับกลุ่มคนที่จะไปตกปลาที่น้ำตกป่าละอู โดยกลุ่มคนเหล่านี้เล่าว่า นายเบี้ยวเป็นคนชวนไปตกปลา แต่เมื่อถึงเวลานัดนายเบี้ยวกลับไม่มาตามนัด ตนจึงกลับไปถามครอบครัวนายเบี้ยว พบว่านายเบี้ยวได้กลับปราณบุรีไปแล้ว
หลังจากนั้นผู้เป็นพ่อก็เดินตามหาลูกชายต่อบริเวณป่าละแวกบ้าน ในระหว่างทางนั้นก็ได้กลิ่นเหม็นเป็นช่วงๆ และมีแมลงวันบิน แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงตัดสินใจกลับบ้านเนื่องจากมืดค่ำแล้ว บวกกับสายตาที่ไม่ค่อยจะดี


วันที่ 12 มี.ค.62 พ่อและแม่ออกตามหาน้องเฉลิมชัยอีกครั้ง และได้ไปบนบานศาลกล่าวว่า หากเจอลูกจะนำหนังมาฉายในชุมชน จนกระทั่ง ช่วงสายของวันที่พบศพ แม่ของเฉลิมชัยได้กลิ่นเหม็น จึงเดินตามกลิ่นไป ก็พบกับ ก้อนหิน 5 ก้อนวางรวมกันอยู่ เธอจึงเอาไม้ไปเขี่ย กลับพบขาที่โผล่ออกมาซึ่งตอนแรกเธอบอกว่าคิดว่าเป็นถุงพลาสติก และพอเขี่ยดูอีกครั้งกับพบว่าเป็นกางเกงนักเรียนขาสั้น จึงได้ขุดหาส่วนศรีษะ พบหน้าผากของคน ซึ่งขณะนั้นเธอยังไม่มั่นใจจึงยกก้อนหินออกจนหมด คราวนี้เธอมั่นใจแล้วว่านี่คือลูกชาย จึงบอกกับร่างไร้วิญญาณของลูกว่าเดี๋ยวแม่จะไปบอกพ่อให้มารับกลับบ้าน จึงรีบไปบอกกับครอบครัวว่าเจอลูกชายแล้ว แต่ในสภาพที่เสียชีวิต
ด้านพ่อของเฉลิมชัยนั้น เปิดใจว่า ตอนนี้ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสงสัยว่าทำไมเบี้ยวถึงไม่ยอมบอกกัน ทั้งที่เป็นพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะ หากโกรธก็ไม่สามารถทำให้ลูกชายฟื้นกลับมาได้ ตนปลงแล้ว ขอให้นายเบี้ยวได้รับผลกรรมที่ก่อไว้
ส่วนเรื่องการรับศพนั้น ครอบครัวของน้องเฉลิมชัยยังไม่มีเงินที่จะไปรับศพของลูกชาย ทางมูลนิธิเพชรเกษมหัวหินจึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการไปรับศพจากสถาบันนิติเวช กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
