ย้อนดู “เปรมชัย” โดนกี่ข้อหา

แจงข้อหา ฟ้องเปรมชัย

แจงข้อหา ต่อข้อหา ทำไมไม่สั่งฟ้องเปรมชัย

จากกรณี อัยการภาค 7 พิจารณาคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ลงความเห็น สั่งฟ้องนายเปรมชัย และพวก 6 ข้อหา แต่ไม่สั่งฟ้อง นายเปรมชัย 5 ข้อหา

ภาพจากอีจัน

ข้อหาสั่งฟ้อง นายเปรมชัย มีดังนี้

1.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า

5. ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย

6. ร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

ที่ผ่านมา นาย สมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 ชี้แจง 5 ข้อหา ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องพร้อม ชี้แจงเหตุผล  


ข้อหาที่ 1.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่สั่งฟ้องเพราะ ข้อหานี้ นายเปรมชัยได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกตามกฎหมาย เมื่อเขาได้รับอนุญาตให้มีปืนดังกล่าว ก็จะไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย

ภาพจากอีจัน


ข้อหาที่ 2.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่สั่งฟ้องเพราะ เขาได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คือหัวหน้าวิเชียร ชิณวงษ์ให้สามารถเข้าไปได้ ข้อหานี้ตามกฎหมายแล้วกำหนดเป็นความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ เพียงแต่มีโทษทางปกครองคือให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็คือหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีอำนาจทางการปกครองเป็นกลาง ที่จะให้ออกจากสถานที่นั้น
เช่นเดียวกับข้อหาที่

3. ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์ป่า ทั้ง 2 ข้อหานี้มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือมีบทกฎหมายความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ อย่างเช่น จำคุก ปรับ กักขัง หรือยึดทรัพย์สิน ไม่มีกำหนดโทษไว้

ภาพจากอีจัน


ข้อหาที่ 4. ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่สั่งฟ้องเพราะ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงแต่ว่า ผู้ต้องหาที่ 4 (ธานี ทุมมาศ) เป็นคนพยายามล่าสัตว์ป่า และ ขณะที่ ผู้ต้องหาที่ 4 พยายามยิงสัตว์นั้น นายเปรมชัย นายยง และนายนที ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่ในความผิดล่าสัตว์ป่า มีการสั่งฟ้อง นายเปรมชัย แล้ว

ภาพจากอีจัน


ข้อหาที่ 5.ร่วมกันกระทำการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร 

ไม่สั่งฟ้องเพราะ กฎหมายยังไม่มีบัญญัติว่าเสือดำเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นว่าการที่พวกเขายิงเสือดำ เป็นการกระทำที่ทารุณ

ภาพจากอีจัน

ขณะนี้ พนักงานอัยการภาค 7 ส่งสำนวนคดีกลับไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาว่ามีความเห็นชอบแล้ว ซึ่งหากเห็นชอบก็จะส่งสำนวนคดีกลับมาให้พนักงานอัยการภาค 7 ยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 1-2 วัน แต่หากมีความเห็นแย้งก็จะต้องส่งสำนวนให้สำนักอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด