DSI ลุยค้นโกดัง แม่ค้าออนไลน์ พบสินค้าไม่ผ่าน มอก. เพียบ

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ลุยค้นคลังสินค้าชายแดนใต้ลักลอบจำหน่ายสินค้าไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. ผ่านช่องทางออนไลน์

วันที่ 14 ก.พ. 67 จากข้อมูลของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สืบเนื่องจาก ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบข้อมูลว่าบริษัท มากี้ช็อป 2017 จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งในพื้นที่จังหวัดยะลา มีพฤติการณ์สงสัยว่ามีการนำเข้าและจำหน่ายสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และลักลอบจำหน่ายสินค้าหลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยเปิดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นซื้อ – ขายสินค้าออนไลน์ทางเพจ Facebook ชื่อ MakeeShop และ Tiktokชื่อ Makeeshopofficial ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก  

พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำคณะพนักงานสืบสวน สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้  กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อุตสาหกรรมจังหวัดยะลา สาธารณสุขอำเภอเมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าในพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการสืบสวน 

โดยเพจดังกล่าวมีพฤติการณ์ถ่ายทอดสด (live) จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลายประเภท ได้แก่ หม้อไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า กระทะปิ้งย่าง พัดลม ฯลฯ ซึ่งสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กำหนดให้ผู้ประกอบการที่นำเข้าจะต้องขออนุญาตจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียก่อนเพื่อรับรองคุณภาพสินค้าว่าเป็นไปตามมาตรฐานและเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ในการที่จะนำไปใช้หรือจำหน่ายต่อและต้องมีเครื่องหมายรับรอง (มอก.) รวมทั้งการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรต้องผ่านพิธีการศุลกากรอย่างถูกต้อง  

แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ บริษัท มากี้ช็อป 2017 จำกัด จำหน่าย ได้ขออนุญาตต่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่อย่างใด และในการถ่ายทอดสดมีการพูดต่อสาธารณะว่าสินค้าที่ขายไม่ผ่านสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้ที่ซื้อสินค้าจำนวนมากทั่วประเทศจำนวนกว่าแสนชิ้น และจากการตรวจพบว่าประกอบธุรกิจ มาเป็นเวลานาน รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท โดยผลการตรวจค้นเป้าหมายพบพยานหลักฐาน ดังนี้ 

1. หมายค้นศาลจังหวัดยะลา ที่ 1/2567 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ค้นสถานที่ บ้านเลขที่  47/57 หมู่ 7 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นที่พักอาศัยและโกดังเก็บสินค้า พบสินค้าซึ่งไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก. จำนวน 70 รายการ รวมจำนวน 1,364 ชิ้น 

2. หมายค้นศาลจังหวัดยะลา ที่ 2/2567 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ค้นสถานที่ บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 7 ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งมีลักษณะเป็นโกดัง ภายในพบว่ามีเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับผลิตกล่องบรรจุสินค้าส่งจำหน่ายให้กับลูกค้า และบริเวณด้านข้างโกดังพบรถบรรทุกสินค้าซึ่งมีสินค้าอยู่เต็มคันรถเตรียมนำเข้าใส่โกดัง จำนวน 75 รายการ  รวมจำนวน 857 ชิ้น 

โดยของกลางที่ทำการตรวจยึดได้เป็นยอดขายในแต่ละวัน ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วในแต่ละเดือนจะมียอดขายประมาณ 30,000 – 40,000 ชิ้นต่อเดือน ประกอบพยานเอกสารการสั่งซื้อและขาย ที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุซึ่งพบว่าได้ประกอบธุรกิจมาเป็นระยะเวลา 4 ปีกว่า โดยไม่มีอาชีพอื่นใด 

พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวจึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรมพ.ศ.2566  มาตรา 48 และ มาตรา 48 ทวิ และความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 มาตรา 243 และ มาตรา 244 ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในบัญชีท้ายประกาศ กคพ.(ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2565 เรื่อง กำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ตามบัญชีท้าย ข้อ 8 และข้อ 13 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะได้เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป 

การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามข้อสั่งการของพันตำรวจตรี ยุทธนา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการมุ่งคุ้มครองความปลอดภัยต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพอนามัยของประชาชนซึ่งเกิดอันตรายจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการ ร่วมกันอย่างต่อเนื่องต่อไป 


คลิปอีจันแนะนำ

เปิดตำนานหลอน “บ้านหลังนี้มีศพ”