สาวได้รับบทเรียนครั้งใหญ่ เตือนเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคน หลังฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า จนตาหวิดบอด
วันนี้ (6 เม.ย. 66) จันได้พบกับเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์เตือน หลังฉีดฟีลเลอร์กับพยาบาล ที่อ้างตัวเองว่าเป็นหมอ จนตาหวิดบอด และทนทรมานจากแผล
เจ้าของเรื่องราวนี้คือ คุณมะลิ เธอเล่าว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค.66 ตนได้ไปฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง เมื่อฉีดเสร็จเวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง ตนสังเกตเห็นว่า แก้มฝั่งขวาเริ่มมีรอยช้ำปรากฏขึ้น และมีอาการแสบโพรงจมูกฝั่งขวามาก และมีน้ำมูกไหลออกดมาตลอดเวลา
ในวันต่อมา ตนได้เดินทางไปโปรโมทภาพยนตร์ ที่ จ.อุดรธานี แต่ไม่ได้เข้าร่วมงาน เนื่องจากต้องรีบไปหาหมอ เพื่อดูอาการ เนื่องจากตนรู้สึกแสบโพรงจมูกมากขึ้น และมีน้ำมูก น้ำตา ฝั่งขวาไหลไม่หยุด หลังจากตรวจแล้ว หมอได้ให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้แพ้ มากินตามอาการ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการดังกล่าวมาจากสาเหตุใด
ผ่านมา 2 วัน ตนได้เดินทางไปที่ประเทศลาว เพื่อจะไปโปรโมทภาพยนตร์ แต่ตนกลับสังเกตว่า ในวันนี้มีอาการที่แย่ลงกว่าเดิม โดยใบหน้า ปาก เริ่มมีอาการบวม และบริเวณช่องปากมีแผลหลายจุด และคล้ายว่าจะมีสิวปรากฏขึ้นมาด้วยเล็กน้อย
กระทั่งเข้าสู่วันที่ 20 มี.ค. 66 ในวันนี้ตนรู้สึกเสียใจ กลัว และมีอาการสับสน เพราะอาการที่เป็น เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จึงตัดสินใจเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ และรีบไปหาหมอเฉพาะทางด้านผิวหนัง
เมื่อหมอเห็นอาการดังกล่าว จึงบอกกับตนว่า นี่คืออาการของ “การฉีดฟีลเลอร์เข้าเส้นเลือด” ซึ่งหมอก็บอกว่าอันตรายมาก เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด จนเลือดไม่สามารถไหลไปหล่อเลี้ยงจุดต่างๆ ได้ และเสี่ยงมากที่ฟิลเลอรืจะไหลเข้าตา เพราะเนื้อเยื่อที่ตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง
ในส่วนของตุ่มที่คุณมะลิบอกว่าเป็นสิว ความจริงแล้วสิ่งนั้นคือหนอง ที่เกิดจากการอักเสบอย่างรุนแรง และต้องรีบรักษาโดยการสลายด่วน หมอจึงให้คำปรึกษาเบื้องต้น ซึ่งต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว และให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด เป็นต้น จากนั้นหมอตัดสินใจส่งรักษา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีต่อไป
คุณมะลิเผยข้อมูลที่ชวนอึ้ง!
การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่ได้ดูจากจำนวนซีซีของฟิลเลอร์ต่อการฉีดสลาย 1 ขวด ซึ่งปัจจุบันตนฉีดไปแล้วกว่า 45 ขวด และการฉีดสลายฟิลเลอร์นั้น ต้องทนทรมานจากอาการเจ็บมาก
คุณมะลิ เผยความรู้สึกว่า สภาพจิตใจของตนในช่วงสัปดาห์แรกแย่มากๆ และหลายครั้งต้องรู้สึกแย่กับชีวิต
สุดท้าย คุณมะลิ บอกว่า ตนอยากแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ เพื่อนเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆ คน “การฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องฉีดกับหมอจริงๆ มีประสบการณ์และความชำนาญมากๆ เพราะอย่างน้อยหากฉีกกับหมอแล้วพลาด เขายังทราบสาเหตุ และมีวิธีการรักษาที่ถูกต้อง ทันท่วงที”
อุทาหรณ์นี้น่ากลัวมากค่ะ หากต้องเราอยากสวย ต้องให้หมอที่ชำนาญในการดูแลเรา จันขอให้คุณมะลิหายไวไวนะคะ
คลิปแนะนำอีจัน
ชื่นชม ตำรวจฮีโร่ บุกชาร์จตัวชายคลั่งบนสะพาน