เบอร์ 1 อาเซียน ไทย ขึ้นแท่นผลิตยานยนต์มากสุด – การแพทย์ติดอันดับดีที่สุดระดับโลก 

ไทยขึ้นแท่นอันดับ 1 ประเทศที่ผลิตยานยนต์มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนการแพทย์ติดอันดับดีที่สุดในโลก

จากการที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ 8 ด้าน ให้ไทยก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในภูมิภาค โดยมุ่งมั่นส่งเสริมทุกด้านที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และเป็นด้านที่ไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) 

ล่าสุด 25 มี.ค. 67 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตอนนี้ประเทศไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผลิตรถยนต์มากที่สุด ซึ่งสำรวจโดยสมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน พบว่าไทยได้ครองอันดับหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์มากที่สุดในปี 2566 จำนวนการผลิตรถยนต์ของไทยอยู่ที่ 1,841,663 คัน  

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลสนับสนุนการลงทุน และสนับสนุนบรรยากาศแวดล้อมที่เหมาะสมกับการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของแรงงานมีฝีมือไทยให้แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในสายตานานาชาติ รวมทั้งปัจจัยด้านการขนส่ง จึงทำให้ไทยมีฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ชั้นนำจากทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตของไทย 

นอกจากนี้ ในส่วนของการแพทย์ นิตยสาร Newsweek ประกาศผลการจัดอันดับ 250 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปีพ.ศ. 2567 ( 250 World’s Best Hospitals 2024) โดยมีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของไทย อยู่ในอันดับที่ 130 (สูงกว่าปีที่แล้วที่เคยอยู่ในอันดับที่ 182 ) World’s Best Hospitals 2024 – Newsweek Rankings และการจัดอันดับ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2567 (World’s Best Hospitals 2024 – Thailand) จำนวน 30 แห่ง มีโรงพยาบาลรัฐบาลหรือในกำกับของรัฐติดอันดับรวม 12 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3 แห่ง World’s Best Hospitals 2024 – Thailand (newsweek.com) ด้วยการวัดผลคะแนนจากเกณฑ์ 4 ด้าน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2566 ได้แก่ 1) การสำรวจออนไลน์จากแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากกว่า 85,000 ราย จากโรงพยาบาล 2,400 แห่ง ใน 30 ประเทศ 2) ความพึงพอใจของผู้ป่วยหลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 3) ดัชนีคุณภาพของโรงพยาบาลที่ครอบคลุมถึงมาตรการด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยของผู้ป่วยและอัตราส่วนผู้ป่วย/แพทย์หรือพยาบาลต่อผู้ป่วย และ 4) การใช้แบบประเมินผลลัพธ์ด้านการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย (Patient Reported Outcome Measures: PROMs) จึงเป็นการตอกย้ำศักยภาพด้านการแพทย์ของไทย  

“นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นในศักยภาพของไทยเชื่อมั่นว่าสามารถขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ รวมทั้งศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตเพื่อสร้างเม็ดเงินในระบบให้ประเทศได้ในไม่ช้า พร้อมขอบคุณที่ทุกภาคส่วน ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคสังคม ประชาชน พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการผลักดันวิสัยทัศน์ตามที่ได้ประกาศไปจนเห็นความคืบหน้าในผลสำเร็จ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว 


คลิปอีจันแนะนำ

3 วัน ภารกิจตามหาแมว