“บิ๊กเต่า” ยัน “นายเอก” เป็นมันสมองหลักบงการ “ศรีสุวรรณ”

“บิ๊กเต่า” ยัน “นายเอก” เป็นมันสมองหลักบงการ “ศรีสุวรรณ” มีข้อมูลทุจริตหลายวงการ ลั่น ถ้าไม่เก่งคุมศรีสุวรรณไม่อยู่ ชี้ วงนี้มีผู้เกี่ยวข้องประมาณ 6 คน เสียหายกว่า 100 ล้าน

ยังคงเป็นประเด็นร้อน สำหรับคดีตำรวจซ้อนแผนรวบ “ศรีสุวรรณ จรรยา” คดีรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ล่าสุด พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบปากคำนายเอกลักษณ์ วารีชล หรือ “เอก ปากน้ำ” คนกลางประสานงานขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวก ที่ถูกจับกุมได้เพิ่มเติมเป็นรายที่ 4 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยระบุว่า นายเอกเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ต่างๆ ได้ เก่งจนสามารถควบคุมนายศรีสุวรรณได้ นายศรีสุวรรณต้องฟัง เพราะนายเอกเป็นคนที่มีข้อมูลการทุจริต การตรวจสอบหน่วยงานรัฐต่างๆ เป็นจำนวนมาก รู้จักคนเยอะ ถ้าหากนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมก็คงดี แต่กลับนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ส่วนรายละเอียดการสอบปากคำตนเองยังไม่พูดคุยกับนายเอก ซึ่งหลังจากนั้นก็คงเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และการยื่นขอประกันตัว แต่ตนเองได้บอกกับนายเอกว่า หลังประกันตัวจะขอพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปปป. ได้ออกหมายจับและจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายนี้เพียงรายเดียวก่อน แต่หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 คน แต่เป็นผู้ร่วมขบวนการระดับล่าง ไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะในวงนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยยังไม่นับวงอื่น โดยคำว่า “วง” ในที่นี้แบ่งตามวงการกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อมูลทยอยเข้ามาเรื่อยๆ อีกหลายวง

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า หากนับรวมความเสียหายทุกวงน่าจะเกือบ 100 ล้านบาท แต่เป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน พฤติการณ์ลักษณะเดียวกันคือเริ่มต้นจากการร้องเรียน จากนั้นก็แปลงร่างมาเป็นคนเคลียร์ แต่สุดท้ายก็มาแบ่งเคสกัน คล้ายกับนายเจ๋ง ดอกจิก

ส่วนกรณีที่นายเจ๋ง ดอกจิก แถลงข่าวว่าจะไล่ฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน รวมถึงคนที่ร้องเรียนกล่าวหาว่านายเจ๋ง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ รวมถึงยกพานสาบานไม่ใช่ขบวนการรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว และสาปแช่งคนที่กล่าวหา พลตำรวจตรีจรูญเกียรติถึงกับบอกว่า “สาธุ!” และขอบคุณนายเจ๋งที่ยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ซึ่งไม่รู้จะเป็นประโยชน์หรือโทษกับนายเจ๋งกันแน่ ก็ขอให้กำลังใจในการต่อสู้คดี เพราะถ้าตำรวจไม่มั่นใจในพยานหลักฐาน ก็คงไม่จับกุมขบวนการของนายศรีสุวรรณ นอกจากนี้ยังรู้สึกเห็นใจนางสาวพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์หรือ “การ์ตูน” อดีตผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เลขาของนายเจ๋งที่จับกุมไปก่อนหน้านี้รวมถึงภรรยาของนายศรีสุวรรณ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนี้ เชื่อว่าผู้หญิงเหล่านี้ไม่ได้ชั่วเป็นนิสัย แต่ไหลเข้าสู่วงจรอุบาท จึงรู้สึกเห็นใจผู้หญิงมากกว่า

ทั้งนี้ หลังจากนี้ก็จะมีการเรียกนายหมู และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำภายในวันสัปดาห์นี้ แต่กรณีที่นายเจ๋งแถลงพาดพิงไปถึงร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มองว่าเป็นสิ่งที่พูดไปเรื่อย ไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำ