พ่อเหี้ยม ฆ่าแม่และน้อง! ตายท้องกลม

พ่อเหี้ยม ฆ่าแม่และน้อง ! ตายท้องกลม

เมื่อพ่อใจเหี้ยม บุกยิง แม่ซึ่งมีน้องอยู่ในท้องอายุครรภ์แค่ 5 เดือน ขณะที่แม่กำลังไกวเปล กล่อมน้องคนเล็กที่อยู่ในเปล และลูกคนโตวิ่งเล่นอยู่ไม่ห่างวินาทีนั้น ไม่มีใครคาดคิด พ่อเล็งปืนไปที่แม่ และลั่นไก ปัง!

เหตุสะเทือนขวัญ และ น่าสลดใจนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ที่บ้านใหม่ชัยมงคล ต.โปร่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านและร้านขายก๋วยเตี๋ยวของพี่สาวผู้ตาย ซึ่งนางน้อย (นามสมมติ) ผู้ตาย หนีออกจากบ้านสามี หอบลูกชายคนโต 1 คน วัย 3 ขวบ ลูกคนเล็กวัย 1 ขวบ และลูกที่อยู่ในท้องอีก 1 คน อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน หนีมาขอพี่สาวพักอาศัย หลังจากที่ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักหลายครั้ง เพราะความหึงหวง หวาดระแวงของผู้เป็นสามี จนถึงขั้นมีการข่มขู่ว่าจะทำร้าย

หลังจากที่ นางน้อย (นามสมมติ) ภรรยาหอบลูก 2 คน รวมทั้งเด็กในท้องอายุครรภ์ 5 เดือน หนีออกจากบ้าน นายโย่ง (นามสมมติ) สามี อายุ 26 ปี ก็ออกตามหาจนพบว่า ภรรยาหนีมาอยู่บ้านพี่สาว จึงตามมาเพื่อมาง้อขอคืนดี แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามที่นายโย่งคาดคิด ภรรยาไม่ยอมคืนดี และไม่กลับบ้าน

ไม่ทันที่ใครจะคาดคิด นายโย่ง หยิบปืน 9 มม. ที่พกติดตัว เล็งไปที่ภรรยา ระยะเผาขน เล็งไปที่บริเวณหัวของภรรยา เพียงเสี้ยววินาที เสียงปืนก็ดังขึ้น กระสุนวิ่งผ่านขมับด้านซ้าย ระเบิดสมองของภรรยา เลือดกระจายเต็มพื้นบ้าน ร่างของเธอคว่ำลงทันที ทุกอย่างเหมือนหยุดเคลื่อนไหว ลูกน้อยวัย 3 ขวบที่วิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ ร้องจ้า เปลข้างตัวยังคงแกว่งไกวไปมาตามจังหวะ แต่ช้าลง…ช้าลง และ ช้าลงจนหยุดนิ่ง

แทนที่นายโย่ง จะมีสติคิดได้ กลับปรี่เข้าไปที่ร่างไร้วิญญาณของภรรยา และทั้งอุ้ม ทั้งลากร่างไร้วิญญาณของภรรยาไปยังรถกระบะ และขับหลบหนีไปทันที ซึ่งนายโย่งขับรถหลบหนีไปทางบ้านญาติ ในหมู่บ้านสะพานยาว อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุ จึงส่งกำลังออกไล่ติดตามผู้ก่อเหตุ โดยวิทยุให้สายตรวจประจำตำบลใกล้เคียงเร่งตั้งด่านสกัดทันที

จึงนำกำลังตำรวจออกไล่ติดตามผู้ก่อเหตุและได้วิทยุให้สายตรวจประจำตำบลใกล้เคียงได้เร่งตั้งด่านสกัดจับชายคนดังกล่าว และทราบว่านายพิชิตชัยหรือโย่ง พิพิธกุล อายุ 26 ปี สามีได้ขับรถกระบะบรรทุกศพนางพิมพ์ชนก หรือน้อย ขับมุ่งหน้าไปที่บ้านญาติที่เป็นบ้านเกิดตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 45 บ้านสะพานยาว หมู่ 5 ต.โปรงนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ

เจ้าหน้าตำรวจ ติดตามมาจนถึงบ้าน นายโย่ง จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมนายโย่ง ยังคงนั่งอยู่ในรถกระบะคันดังกล่าว มองผ่ากระจกรถเห็นนายโย่งกำลังร้องไห้กอดศพเมียไม่ปล่อย ตำรวจเริ่มเจรจาเกลี่ยกล่อม เวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง นายโย่งก็ยังไม่ยอมลงจากรถและมอบตัว

ในที่สุด พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมฟังคำสั่งก่อนที่จะตัดสินใจเข้าจู่โจม ด้วยการบุกชาร์จทุบกระจกรถและจับกุมตัวได้ ซึ่งนายโย่งรับสารภาพว่า เกิดบันดาลโทสะและหึงหวง

ตำรวจเข้าตรวจสอบภายในรถกระบะ พบร่างผู้เสียชีวิตภรรยาของนายโย่ง ถูกห่มด้วยผ้าห่มกันหนาวสวมเสื้อสีส้มดำ กางขาสั้นสีลายดอก นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนเบาะด้านข้างคนขับรถ สภาพศพที่บริเวณขมับด้านซ้ายถูกยิงด้วยปืน 9 มม. กระสุนทะลุท้ายทอย

ภายในรถด้านคนขับ ยังพบปืนลูกซองเบอร์ 12 ไทยประดิษฐ์จำนวน 2 กระบอกและปืน 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีก 13 นัดที่ใช้ก่อเหตุ ตกอยู่ภายในรถ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นอย่างละเอียดภายในรถยังพบยาบ้าซุกซ่อนไว้จำนวน 481 เม็ด ยาไอซ์ 2 กรัม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดีและนำศพภรรยาไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนนำศพกลับไปให้ญาติบำเพ็ญกุศลต่อไป

ทางจนท.ตร.จึงนำตัวผัวโหดรายนี้เดินทางไปกราบขอขมาศพและตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กอดลูกวัยสามขวบบอกให้เป็นเด็กดี พร้อมก้มกราบพ่อตัวเอง ขอโทษ

ล่าสุด (11 เม.ย.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโย่ง ผู้ต้องหาไปทำแผน นำชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ ทั้งหมดจำนวน 3 จุด คือจุดแรกที่บ้านเกิดเหตุบ้านใหม่ชัยมงคล ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จุดที่สองคือ วัดใหม่ชัยมงคล ต.โป่งนก นำตัวผู้ก่อเหตุไปขอขมาศพ ซึ่งในระหว่างที่ขอขมา นายโย่งได้ร้องไห้ไหว้ขอขมา และเมื่อนายโย่งได้หันมาเห็นลูกชายวัย 3 ขวบ นายโย่งได้เข้าไปกอด พร้อมพูดว่า “เป็นเด็กดีนะลูก” จากนั้นจึงเข้าไปกราบพ่อของตัวเอง เพื่อขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจุดที่สาม คือ ที่บ้านเกิด บ้านสะพานยาว ต.โปรงนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง นปพ. และกำลังจนท. จากกองบังคับการตำรวจของสถานีตำรวจภูธร จังหวัดชัยภูมิ เสริมกำลังตำรวจเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 50 นายคุ้มกัน

ซึ่งขณะทำแผนชาวบ้านที่มามุงดูจำนวนมาก ต่างตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหา บางส่วนพยายามจะเข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันไว้

หลังจากเสร็จสิ้นก็จะส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเทพสถิต สอบสวนปากคำเพิ่มเติม และนำตัวส่งไปผลัดฟ้องฝากขังดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป