
จัน เจอโพสต์ของ นพ.สมรส พงศ์ละไม คุณหมอโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนผู้ที่มีอาการปวดหลังผิดปกติ รวมถึงเตือนหมอกันเอง อย่าชะล่าใจ คิดว่าทุกการปวดหลัง คือเรื่องไม่รุนแรง
โดยคุณหมอ เล่าถึงอาการของผู้ป่วยชายวัย 40 ปี ที่มารักษาตัวด้วยอาการปวดกลางหลังและซี่โครงด้านซ้าย
ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยได้ไปพบแพทย์แผนกอื่นๆ มา 2 แผนก วินิจฉัยว่าเป็นอาการปวดจากกล้ามเนื้อ ส่งมาปรึกษาแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัดเพื่อลดปวด
คุณหมอได้ซักประวัติผู้ป่วย พบว่า มีอาการปวดมานาน 2 สัปดาห์แล้ว ปวดมากเวลาตะแคงทับด้านซ้ายและเวลาหายใจเข้าลึกๆ
มีเหนื่อยหอบบ้างบางที ขยับแขน ขยับไหล่ ไม่ได้ ปวดระบมๆ ข้างใน
ไม่มีปวดแสบร้อนเหมือนเข็มทิ่มตำหรือชา
ไม่มีตุ่มหนองใดๆ
*ก่อนหน้านี้แข็งแรงปกติดี
ส่วนผลตรวจร่างกาย
- ความดัน 137/87 หายใจ 24 ครั้งต่อนาที ออกซิเจนปลายนิ้ว 98%
- เสียงปอดได้ยินลดลงทั้ง 2 ข้าง (decrease BS both lungs)
- ขยับไหล่ได้สุดทุกทิศทาง ไม่เจ็บ กดตามกล้ามเนื้อหลังและชายโครงไม่มีจุดกดเจ็บ เคาะแล้วไม่ปวด
- การรับความรู้สึกปกติ ไม่มีอ่อนแรง
X-ray ทรวงอก วันแรก: หายใจไม่เต็มที่ ไม่เห็นความผิดปกติอื่นๆ
คุณหมอ โพสต์เล่าต่อว่า
หลังการตรวจประเมินแล้ว คิดว่าไม่ค่อยเหมือนโรคทางกล้ามเนื้อและเส้นประสาทของแพทย์ฟื้นฟูซักเท่าไหร่
จึงให้ประคบเย็นและนอนรอดูอาการ ระหว่างประคบเย็นได้ 10 นาที คนไข้เจ็บหน้าอกและเหนื่อยมากขึ้นทันที หายใจ 28 ครั้ง/นาที สั้นๆ ออกซินเจนปลายนิ้ว 97%
ดูสีหน้าไม่ดี จึงส่งผู้ป่วยไปห้องฉุกเฉิน
สุดท้ายคนไข้ได้ยาแก้ปวดและกลับบ้านไป
2 วันต่อมา คนไข้ปวดและเหนื่อยหอบมากขึ้น จึงมา admit ที่โรงพยาบาล
ส่งทำ xray ปอดเพิ่มเติม และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทรวงอก (CT chest)
พบว่ามีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดกระจายทั่วๆ ที่ปอดด้านซ้ายตามรูป สรุปวินิจฉัยเป็นปอดติดเชื้อและมีน้ำในเยื่อหุ้มปอด (parapneumonic effusion from pneumonia) โดยอาการไม่ได้มาด้วยไข้ ไอ หอบ แบบปอดติดเชื้อปกติ
แต่มาด้วยอาการปวดชายโครงก่อน แล้วค่อนเหนื่อยหอบ เจอได้ไม่บ่อยแต่เจอได้เรื่อยๆ เชื้อปกติ host ปกติ
การรักษาที่ให้คือ ใส่ท่อระบายเอาน้ำและเลือดที่คั่งออก ให้ยาฆ่าเชื้อ
คนไข้อาการดีขึ้น หายใจโล่งขึ้น ไม่ปวดแล้ว