ผบช.น. สั่งล่าตัว “มือปาปูนใส่รถหรู” บนถนนบางนา-ตราด

ผบช.น. สั่งการ สน.บางนา เร่งตามตัว “ชายมือมืด” ปาก้อนปูนใส่รถหรู บริเวณเส้นถนนบางนา-ตราด ทำกระจกเสียหายหนัก – กทพ. แจงก้อนปูน ไม่เกี่ยวโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี

จากกรณีก้อนปูนตกใส่รถยนต์หรู ขณะสัญจรบริเวณถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ทำให้ได้รับความเสียหายจุดกระจกด้านขวาฝั่งผู้โดยสาร ล่าสุดมีความคืบหน้าถึงประเด็นดังกล่าว

วันนี้ (2 พ.ค. 68) ร.ต.อ.ไพบูลย์ มาลา รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา รับแจ้งเหตุจากนางสาวอรสินี สุวรรณโพธิ์ศรี ผู้เสียหายถูกหินตกใส่รถบริเวณถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ช่องด่วน แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2568 เวลา 17.36 น.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.บางนาและชุดสืบสวน เร่งทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าว  

จากการตรวจสอบ ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ VOLVO  สีดำป้ายแดง ของตนเอง มาตามถนนบางนา-ตราด ขาเข้าช่องทางด่วน เมื่อวิ่งมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้มีก้อนซีเมนต์ปริศนาตกใส่กระจกหน้ารถด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสารได้รับความเสียหาย หลังจากเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้แจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวเข้าอู่ทันที ต่อมา ตัวแทนบริษัทประกันภัยได้พาผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน 

ภายหลังรับแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนได้ประสานฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีคนร้ายเป็นชายสวมหน้ากากอนามัย ได้เดินขึ้นสะพานลอยฝั่งเคหะบางนา ปากซอยบางนา-ตราด 46 โดยถือถุงซึ่งภายในมีก้อนซีเมนต์ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ใช้มือหยิบก้อนซีเมนต์ขว้างลงจากสะพานลอยลงมา เป็นเหตุให้โดนกระจกหน้ารถของผู้เสียหาย ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะหลบหนีไป โดยฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จะเร่งติดตามตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ขณะเดียวกัน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประกาศชี้แจงถึงกรณีก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี ระบุว่า

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้นำทีมวิศวกร ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแล้ว พบว่าโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถีของ กทพ. มิได้มีความเสียหายหรือร่องรอยกระเทาะของคอนกรีตแต่อย่างใด

อีกทั้ง กทพ.ได้ประสานกับแขวงทางหลวงสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการมีผู้โยนก้อนปูนลงมาจากสะพานลอย จนทำให้รถของผู้ใช้ทางที่สัญจรผ่านมาพอดี ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจนทั้งนี้ กทพ. จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามผู้กระทำการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป