อีจันได้พบกับเรื่องราวของ “เนย” คุณมัธฑริกา จันต๊ะหล้า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 เนยเล่าว่า ตนรู้ตัวว่าเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเริ่มรักษาช่วงอายุ 14 ปี แต่หนักไปกว่านั้น เธอต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ตั้งแต่ ปี 2563 – 2565 หรือราว 2 ปี โดยที่เธอไม่ได้กลับบ้านเลย
เนยยังเล่าต่ออีกว่า การรักษาของเธอไม่สามารถรักษาโดยวิธีฉีดยาได้ จึงต้องใช้วิธีการรักษาโดยการ Drip Insulin เพียงอย่างเดียว ตลอดเวลาที่เนยรักษาอยู่ในโรงพยาบาล เป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก เพราะต้องเปลี่ยน C Line ทุกๆ 10 วัน
เธอยังเผยความในใจว่า เธอคือเด็กวัย 19 ปี ที่ควรจะมีชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป แต่เธอต้องอยู่แค่ในโรงพยาบาล แม้แต่การเรียนก็ไม่สามารถเรียนเหมือนคนอื่นได้ ต้องเรียนในระบบ กศน. เพราะเธอต้องอาศัยอยู่แค่ในโรงพยาบาล จะไปไหนมาไหนก็ลำบาก เพราะมีเสาน้ำเกลือติดตัวไว้ตลอดเวลา เธอกับเสา แทบจะเป็นอวัยวะที่ขาดจากกันไม่ได้
ด้าน ผศ.นพ.วรกิตติ ลาภพิเศษพันธ์ อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ ระบบตับทางเดินน้ำดีและตับอ่อน ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า โรคเบาหวานชนิดที่ 1 บางคนเป็นมาตั้งแต่เกิด ในเคสของเนยต้องได้รับการปลูกถ่ายตับอ่อน
ในที่สุด แสงสว่างก็บังเกิดกับเนย เมื่อมีผู้ป่วยสมองตายบริจาคอวัยวะที่เนยต้องการนั่นคือ “ตับอ่อน” ซึ่งการปลูกถ่ายตับอ่อน ที่ได้ปลูกถ่ายกับเคสของเนยนั้น เป็นการปลูกถ่ายที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในทางการแพทย์ของภาคเหนือ
สุดท้าย เนย ได้ขอบคุณที่มีผู้มาบริจาคอวัยวะ จนทำให้ตนได้มีชีวิตต่อ หากไม่ได้รับการบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ ตนก็ต้องอยู่รักษาในโรงพยาบาลไปอีกนาน
นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของความโชคดี จากการที่ได้รับอวัยวะ จากผู้ที่มีความประสงค์บริจาคอวัยวะ อีจันจึงขอเป็นสะพานบุญส่งต่อช่องทางการสร้างมหากุศลครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายของชีวิต โดยการแนะนำวิธีการบริจาคอวัยวะง่ายๆ ที่ทุกคนทำได้ที่บ้านค่ะ
โดยทุกคนสามารถกดลิงก์ด้านล่างนี้เพื่อโหลดแอปพลิเคชัน “บริจาคอวัยวะ” ของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
ระบบ ios
ระบบ Android
https://play.google.com/store/apps/details?id=th.in.organdonate&pli=1
สำหรับผู้ที่ประสงค์บริจาคดวงตา ของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย สามารถกดได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
https://ebis.redcross.or.th/Register.aspx