
ครอบครัวหนึ่งแหลกสลาย แต่อีกฝ่ายใส่ทองเส้นใหญ่ ชีวิตดี๊ดี?
จากกรณีแม่น้องการ์ตูน ตัดสินใจปล่อยน้องจากไปอย่างสงบ ท่ามกลางกระแสดราม่าถาโถมใส่คุณแม่ทั้งที่แม่เป็นผู้สูญเสียและต้องเจอกับมรสุมต่างๆ สุดยากลำบากมาหลายปีหลังเกิดเหตุรถกระบะซิ่งพุ่งชนร้านสเต็ก เมื่อปี พ.ศ. 2557 ส่งผลให้พ่อน้องการ์ตูนเสียชีวิต ส่วนน้องการ์ตูนได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องต่อสู้กับการเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ล่าสุด วันนี้ (1 พ.ค.68) น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ สส.ไอซ์ จากพรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า…
“สงสารครอบครัวแม่น้องการ์ตูนมากๆ เตือนความจำอีกครั้งข่าวที่ใครเสิร์ชก็เจอ นางสาวน้ำผึ้ง ป่านนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อไปแล้ว ขับรถกระบะ เสียหลักพุ่งเข้าชน ร้านสเต็กลุงใหญ่ เป็นเหตุให้ เจ้าของร้าน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วน “น้องการ์ตูน” ลูกสาววัย 5 ขวบพิการตลอดชีวิต
เคยเยี่ยมคุณแม่ของน้องเล่าว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา คนขับไม่เคยมาเยี่ยม ไม่เคยแสดงความเสียใจ ไม่เคยขอโทษ ทั้งที่ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่จำเลยใช้วิธี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ทำให้แม่น้องการ์ตูนต้องดิ้นรนหาเงินด้วยตัวเอง เขาไม่ได้อยู่นิ่งๆ ก็ยังเปิดร้านสเต็ก รับของมาขายอยู่ตลอด ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง เงินก็ต้องหามารักษาลูกที่ติดเตียง
ในขณะที่คนที่ชนลูกเค้า ทำลายครอบครัวแหลกสลาย ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนชื่อแซ่ มีชีวิตที่ดี ดูแลตลาดอยู่แถวๆ บางบอน5 ขายของสบายใจ ใส่ทองเส้นเบ้อเร่อ อำนาจกฎหมายก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะโอนทุกอย่างให้คนอื่นเก็บไปหมด สืบทรัพย์กี่ที ก็ไม่เจอเงิน

กฎหมายควรจะปกป้องแม่และน้องได้ ก็ปกป้องไม่ได้ ขอยืมเงิน “ยืม” เพื่อไปรักษาชีวิตลูกยังจะโดนตำหนิอีก อย่าใจร้ายกับแม่น้องมากเกินไปนักเลย คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว แทบจะขายสมบัติทุกชิ้นในชีวิตเพื่อรักษาลูกที่คุณแม่ก็รู้ว่าน้องไม่มีวันเหมือนเดิมเอาไว้ มันเจ็บปวดมากนะ ครอบครัวเค้าไม่ควรต้องเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เป็นกำลังใจให้นะคะ ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother’s Grill Steak House “ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ”