รวบแล้ว! ทวิตเตอร์ “หลานของผม” ที่แท้ในคลิปไม่ใช่หลาน

จากกรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์ข้อมูลว่า ทวิตเตอร์ “หลานของผม” ลงภาพ พร้อมอ้างว่า แอบถ่ายหลานสาว ม.ปลาย ที่มาพักอยู่ที่บ้าน พร้อมระบุข้อความว่า ไม่อยากคิด แต่อดไม่ได้จริง ๆ เป็นมือใหม่หัดแอบถ่าย พร้อมฝากติดตามผลงานด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ต่อมา โลกออนไลน์ได้มีการแฉพฤติกรรมของบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าว รวมทั้งแจ้งไปยังกองปราบปรามด้วย และสงสัยว่าเด็กสาวที่ถูกแอบถ่ายอาจรู้เห็น หรืออาจจะเป็นการจัดฉากและสร้างเรื่องขึ้นมาหรือไม่

ล่าสุด (19 กุมภาพันธ์ 2563) เพจ TICAC-Thailand Internet Crimes Against Children หรือ คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้าว่า ขณะนี้ เจ้าของทวิตเตอร์ "หลานของผม" ได้ถูกจับกุมแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายชัยวัฒน์ อายุ 31 ปี ชาว จ.จันทบุรี อาชีพพนักงานวางระบบคอมพิวเตอร์บริษัทแห่งหนึ่ง

โดยการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 เกิดกระแสแฮชแท็ก “หลานของผม” ในทวิตเตอร์จนขึ้นเป็นเทรนแฮชแท็กอันดับ 1 ของประเทศไทย เนื่องจากผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมาก ไปพบทวิตเตอร์ชื่อ “หลานของผม” โดยมีชื่อแอคเคาท์ว่า @LovePhrik ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอในลักษณะแอบถ่ายหลานตัวเองใส่ชุดนักเรียน ทั้งในขณะนอนหลับ ขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า และขณะอาบน้ำจำนวนหลายโพสต์ พร้อมทั้งให้ข้อมูลว่าจะล่วงละเมิดทางเพศหลานของตนเอง และจะถ่ายคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้รับชม

ทีม TICAC ได้ดำเนินการสืบสวนได้ข้อมูลว่าทวิตเตอร์ชื่อ “หลานของผม” มีอยู่ 2 บัญชี ที่มีชื่อผู้ใช้ หรือ แอคเคาท์ แตกต่างกัน คือ @LovePhrik และ @Larnkhongpom จนเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 ได้เข้าตรวจค้นจับกุมจำนวน 2 เป้าหมาย คือ จับผู้ต้องหาตัวจริงที่ใช้แอคเคาท์ชื่อ @LovePhrik ได้ที่จังหวัดจันทบุรี และจับคนทำเลียนแบบที่ใช้ชื่อแอคเคาท์ @Larnkhongpom ได้ที่ในกรุงเทพมหานคร

โดยเจ้าของทวิตเตอร์ "หลานของผม" ตัวจริงยอมรับว่า ได้ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวเล่นกับแฟนสาวอายุ 20 ปี ของตนเอง โดยบอกแฟนว่าจะเก็บไว้ดูเอง แต่เอามาสร้างสตอรี่ขึ้นมาเพื่อสร้างกระแส โดยแฟนสาวไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้มีการแอบถ่ายหลานแต่อย่างใด ส่วนเจ้าของ ทวิตเตอร์ "หลานของผม" ตัวเลียนแบบ ยอมรับว่าเมื่อเห็นว่า แฮชแท็ก "หลานของผม" มีชื่อเสียงขึ้นมาก็ทำเลียนแบบ

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายชัยวัฒน์ คือ กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วน นายเอกกมล อายุ 23 ปี อาชีพขับแกร็บคาร์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สวมรอยนำไปโพสต์ให้ผู้อื่นติดตาม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายเอกกมล ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กอีกเป็นจำนวนมาก โดยมีการเปิดกลุ่มส่งคลิปโป๊เด็ก โดยจะเก็บค่าเข้ากลุ่ม คนละ 300 บาท ตำรวจจึงแจ้งข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก โทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 6 หมื่น – 2 แสนบาท และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์