อวสานรีสอร์ทกกกอด จ.กาญจนบุรี

กรมอุทยานฯ สั่งให้รื้อถอนรีสอร์ทกกกอด ภายใน 30 วัน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกตั้งแต่ 1-3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หากเกินกำหนด ปรับรายวันอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะรื้อถอนเสร็จ

ตามนโยบายของนาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนายทุนผู้บุกรุกป่า

ภาพจากอีจัน
วันนี้ (20 ก.พ. 63) เวลา 09.30 น. นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และคณะเจ้าหน้าที่ จำนวน 20 นาย ได้เดินทางมาติดประกาศคำสั่งรื้อถอน สิ่งปลูกสร้างฯ บริเวณด้านหน้า รีสอร์ทกกกอด ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ของนาย ศิริยุทธ สิริยุทธพงษ์ โดยมีหุ้นส่วนทางลับเป็นลูกสาวของคนมีสี ยศนายพล โดยให้รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสินหรือสิ่งอื่นใด ของรีสอร์ท กกกอด ไปให้พ้นจากอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี
ภาพจากอีจัน
สืบเนื่องมาจาก อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายศิริยุทธ สิริยุทธพงศ์ ในคดีอาญาที่ 244/ 2559 เนื่องจากขาดเจตนากระทำผิด แต่มิใช่ เนื่องจากที่ดินไม่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ แต่อย่างใด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ก็ยังมีอำนาจ เข้าไปรื้อถอน รีสอร์ท กกกอด แห่งนี้ได้ เทียบเคียงคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ อส. 3 1/2559 ต่อมามีคำสั่งศาลปกครองสูงสุดลงวันที่ 10 มกราคม 2562 ไม่รับอุทธรณ์ ของนายศิริยุทธ สิริยุทธพงศ์ ที่อุทธรณ์ไม่ให้รื้อถอนรีสอร์ทแห่งนี้ ถือว่าคดีนี้เป็นอันถึงที่สุด

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 35(2) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ พ.ศ .2562 ประกาศคำสั่งให้ นายศิริยุทธ สิริยุทธพงษ์ และบริวาร ที่มีภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 55/ 5 หมู่ที่ 8 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ให้รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พืชผลอาสิน หรือสิ่งอื่นใดของรีสอร์ท กกกอดแห่งนี้ ไปให้พ้น จากอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี ภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศคำสั่งนี้ เมื่อครบกำหนดเวลาตามประกาศคำสั่งแล้ว หากยังดื้อเพ่งไม่รื้อถอน จะถูกดำเนินคดีฐาน ฝ่าฝืนประกาศคำสั่งนี้ ระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี ถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องระวางโทษปรับรายวันอีกวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะได้มีรื้อถอนเสร็จ และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนให้กับทางราชการ จำนวน 242,733.22 บาท และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 25 ต่อปี

ภาพจากอีจัน
หลังจากคณะเจ้าที่ปิดประกาศคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี และหากครบกำหนดเวลาตามประกาศคำสั่งแล้ว นายศิริยุทธ สิริยุทธพงศ์ ยังดื้อเพ่งไม่ดำเนินการรื้อถอน จะมาแจ้งความดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนประกาศคำสั่งตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ฉบับใหม่ และจะส่งเรื่องให้ ปปง.ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (15) ให้ยึดเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้าเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติต่อไปอีกด้วย