ผักผลไม้ไทยส่งออก ยอดหด โดนผลกระทบโควิด 19 กษ.คาด 3 ม.ค.-มี.ค. ขาดทุน 940 ล้านบาท

กระทรวงเกษตรฯ เตรียมรับมือ ยอดผักผลไม้ส่งออกยอดหด โดนผลกระทบจากไวรัสโควิด-19

วันที่ 2 มี.ค. 63 จากการวิเคราะห์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า วิกฤติไวรัสโควิค-19 มีส่วนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนแรกของปี 63 คือ ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม คาดว่านักท่องเที่ยวจะหายไปกว่า 2 ล้านคน แต่หากสถานการณ์ยังคงไม่ดีขึ้นอีก 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2563) จำนวนนักท่องเที่ยวจะหายไป 4.37 ล้านคน

ภาพจากอีจัน
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลกระทบเรื่องการส่งออกสินค้าของเกษตรไทย โดยเฉพาะผักและผลไม้สด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประมาณการมูลค่าการส่งออก ผัก ผลไม้สด ในช่วง 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม 2563) จะลดลงร้อยละ 0.33 เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดไปประเทศจีนในปี 2562 หรือคิดเป็นมูลค่า 940 ล้านบาท

แต่ถ้าหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อไปอีก 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2563) จะส่งผลกระทบต่อการส่งออก ผักผลไม้ลดลงเป็นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดไปประเทศจีนในปี 2562 หรือคิดเป็นมูลค่า 5,278 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงให้ผลของ ทุเรียน และมังคุด ซึ่งกว่าร้อยละ 50 ผลผลิตทุเรียนส่งออกไปยังตลาดจีน โดยเฉพาะทุเรียนสด

ภาพจากอีจัน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงเตรียมมาตรการรองรับให้ระบบสหกรณ์เข้ามาช่วยเหลือ โดยเชื่อมั่นว่า จะช่วยแก้ไขปัญหาปริมาณส่งออกผลไม้ที่ลดลง และแก้ไขปัญหาผลผลิตล้นตลาด ด้วยการประสานกับสหกรณ์ทั่วประเทศ ให้เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยง และกระจายสินค้าให้กับผู้ประกอบการจำหน่ายผลไม้ในท้องถิ่น รวมถึงผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกผ่านระบบตลาด ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และ ออฟไลน์ รวมถึงกระบวนการ logistic เพื่อเป็นการเพิ่มความต้องการบริโภคผลไม้ในประเทศให้มากขึ้น เชื่อแน่นอนว่าช่วยให้เกษตรกรชาวสวนผลไม้สามารถผ่านสถานการณ์ในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน