ค้านนำ “ผีน้อย” มากักตัวในพื้นที่ จ.เพชรบุรี

ภาคส่วนต่างๆใน จ.เพชรบุรี ออกแถลงการณ์คัดค้านนำ “ผีน้อย” มากักตัวในพื้นที่ จ.เพชรบุรี

จากกระแสข่าว เมื่อวานนี้ (5 มี.ค. 63) พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เผยถึงการจัดเตรียมสถานที่กักกันโรคไวรัสโควิด-19 สำหรับแรงงานผิดกฎหมายที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ หรือ “ผีน้อย” ว่า กองทัพอากาศเตรียมพื้นที่โรงเรียนการบินกองทัพอากาศ กำแพงแสน ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะรองรับแรงงานที่จะเดินทางมาได้ประมาณเท่าใด โดยรายละเอียดจะชัดเจนในวันนี้ (6 มี.ค. 63) หลังกองทัพประชุมร่วมกระทรวงสาธารณสุข แต่เบื้องต้นรัฐบาลประสานทุกเหล่าทัพให้เตรียมพื้นที่สนับสนุนรองรับแรงงาน ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากกองทัพด้วยว่า ได้จัดเตรียมพื้นที่ควบคุมในพื้นที่กองทัพ อาทิ พื้นที่กองทัพไทย ใช้ที่หาดเจ้าสำราญ หรือบ้านพักรับรอง จ.เพชรบุรี , ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ กองทัพไทย ที่แหลมแท่น จ.ชลบุรี ,กองทัพบก ใช้พื้นที่สวนสน 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ , กองทัพอากาศ ใช้โรงเรียนการบิน ส่วนกองทัพเรือ ใช้อาคาร 3-8 อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ล่าสุดวันนี้ (6 มี.ค. 63) ภาคส่วนต่างๆ 11 องค์กรใน จ.เพชรบุรี ออกหนังสือแถลงการณ์คัดค้าน ระบุเป็นการซ้ำเติมการท่องเที่ยวให้ทรุดหนัก โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตามที่มีข่าวว่ารัฐบาลมีแผนจะนำคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก และเป็นประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยประกาศให้เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มากักตัวเพื่อดูอาการในหลายพื้นที่ และระบุให้โรงแรมทหารหาดจอมพล หรือสถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก(หาดเจ้าสำราญ) ตั้งอยู่บริเวณริมหาดทะเลเจ้าสำราญ ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพไทย นั้น

ภาคส่วนต่าง ๆ ใน จ.เพชรบุรี ตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์นี้ ขอคัดค้านแผนการดังกล่าว ทั้งนี้ มิใช่ด้วยความรังเกียจหรือกีดกันบุคคลกลุ่มดังกล่าวที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ แต่ด้วยเห็นว่าโรงแรมทหารหาดจอมพลหรือสถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก (หาดเจ้าสำราญ) เป็นสถานที่ไม่เหมาะสมที่จะใช้เพื่อการกักตัวดูอาการผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) เนื่องจากโรงแรมทหารแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 มีหาดทรายสวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.เพชรบุรี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวตลอดปี

โดยเฉพาะในช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศซบเซา มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้หล่อเลี้ยงประเทศและชุมชน การนำคนที่มาจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายมาพักอาศัยในพื้นที่ ย่อมจะสร้างความหวั่นวิตกทั้งแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ จนอาจไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยว และจะเป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจให้เลวร้ายลงไปอีก

เป็นที่ทราบกันดีว่าหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวง ทบวง กรม ของไทย โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีพื้นที่เหมาะแก่การนำกลุ่มบุคคลข้างต้นไปกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการอยู่หลายแห่งในหลายจังหวัด
ภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ใคร่ขอให้รัฐบาลได้โปรดทบทวนและยกเลิกแผนการที่จะนำคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้มากักตัวในสถานที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของ จ.เพชรบุรี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงชุมชน โดยขอให้นำไปยังสถานที่ของทางราชการอื่น ๆ ที่เป็นสถานที่ปิดและอยู่ห่างไกลชุมชน

ทั้งนี้หากการร้องขอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบที่เหมาะสม ภาคส่วนที่ร่วมกันจัดทำแถลงการณ์นี้ ขออนุญาตใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เห็นว่าเหมาะสมและเป็นการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป

แถลงการณ์มา ณ วันที่ 6 มีนาคม 2563
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี , เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ , หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี , YEC หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี , สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบุรี , กลุ่มธุรกิจบิสคลับจังหวัดเพชรบุรี , ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจังหวัดเพชรบุรี , สมาคมสื่อมวลชนเพชรบุรี , ชมรมองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดเพชรบุรี , สมาคมกลุ่มคนรักเมืองเพชร , สันนิบาตเทศบาลจังหวัดเพชรบุรี

ภาพจากอีจัน

อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพและรัฐบาลยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งจะมีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้งกับกระทรวงสาธารณสุขด้วยในวันนี้ (6 มี.ค. 63) คงต้องรอผลการหารือว่าสุดท้ายแล้ว ทางรัฐบาลจะจัดเตรียมสถานที่กักกันโรคไวรัสโควิด-19 ที่ใดให้กับกลุ่มผีน้อย