รัฐบาล จัดสรรหน้ากากอนามัย ให้ รพ.รัฐฯ-เอกชนแล้ว

จุรินทร์ดันผลิตหน้ากากอนามัย 1.2 ล้าน ชิ้นต่อวัน เพื่อทุก รพ.รัฐ-เอกชนทุกสังกัด

จากกรณี โรงพยาบาลเอกชน ได้ทำหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และสำเนาแจ้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “โรงพยาบาลเอกชนประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยสำหรับใช้ในการป้องกันการระบาดของโรค โควิด-19 ถึงขั้นวิกฤต”

ล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เยี่ยมการกระจายหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ ในส่วนของโรงพยาบาลเอกชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพจากอีจัน
ด้าน ศ.ดร.นพ. เฉลิม หาญพาญิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า ขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลังจากที่ประชุมกับท่านมาวันก่อนเห็นว่ามองภาพรวมและได้กระจายหน้ากากอนามัยไปแล้วตามโรงพยาบาลต่างๆที่ขาดแคลนมาก ได้รับการแก้ไขทันทีและได้รับโควตาอย่างชัดเจน

สำหรับหน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้นต่อวัน ที่โรงพยาบาลเอกชนได้รับนั้น จะจัดสรรให้โรงพยาบาล 382 แห่ง เราจะเป็นตัวกลางในการจัดสรร และอีก 40,000 ชิ้นต่อวัน เราประชุมกันว่าคลินิกทันตแพทย์ คลินิกหมอ ได้รับ 40,000 ชิ้นต่อวัน เราจะหาวิธีจัดสรรไปสู่คลินิกทั่วประเทศ เพราะต้องป้องกันทุกคลินิก ถ้าใช้ถูกต้องตามหลักวิชาการแพทย์ไม่ฟุ่มเฟือยหน้ากากผ้าสำหรับคนที่ไม่เสี่ยงถือว่าเป็นตัวแปรหนึ่ง เพราะกำลังการผลิตของประเทศเราน้อย

ต่อมานายจุรินทร์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตรวจเยี่ยมการกระจายหน้ากากอนามัยให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ รพ.ศิริราช โดยมี รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผอ.รพ.ศิริราช ให้การต้อนรับ

ภาพจากอีจัน

โดยมีหน้ากากให้บริหารจัดการ 1.2 ล้านชิ้น เพราะหนึ่งเดือนสามารถผลิตได้ 36 ล้านชิ้น โดย 1.2 ล้านชิ้น มีข้อตกลงร่วมกันว่าในส่วนของสถานพยาบาลทั้งหมดกระทรวงสาธารณสุขโดย อย. จะเป็นผู้รับไปบริหารจัดการ 700,000 ชิ้น และคนไทยทั้งประเทศซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปรวมทั้งกลุ่มเสี่ยงอื่น 500,000 ชิ้น โดยกรมการค้าภายในจะเป็นผู้บริหารจัดการกระจายออกไปสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์รวมทั้งผู้ป่วยทั่วประเทศ โรงพยาบาลเอกชน โรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร สถานพยาบาลสังกัดอื่นๆทั้งหมด คลินิก รวม 700,000 ชิ้นต่อวัน และจะมีการประชุมศูนย์กระจายหน้ากากทุกวัน

โดยดูว่าสต็อกที่ไหนมีเพียงพอสำหรับช่วงเวลาเท่าไหร่  เพื่อตรวจสอบว่าวันหนึ่งผลิตเท่าไหร่และส่งตัวเลขมาที่ศูนย์กระจายและศูนย์สั่งให้กระจายไปที่ไหนเท่าไหร่ จะบันทึกทั้งหมด ใครจะไปซื้อหลังโรงงานเหมือนที่เคยมีข้อสงสัยอยู่ ตนไม่คิดว่าจะทำได้ แล้วถ้าใครเกิดไปทำก็ต้องมีความผิดเพราะตอนนี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมแล้ว โดยเป็นไปตามคำสั่งของศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ซึ่งมีอธิบดีกรมการค้าภายในและรองเลขาธิการอย.เป็นผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นผู้มีอำนาจและตกลงร่วมกันกับตัวแทนโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย มาร่วมบริหารจัดการร่วมกัน