มุกดาหารเตรียมสถานที่รับผีน้อย จาก 4 ประเทศเสี่ยง

มุกดาหารเปิดอาคารรวม รับ ปชช.ที่เดินทางกลับจาก 4 ประเทศเสี่ยง เพื่อรอดูอาการ 14 หากไม่มีอาการใด ก็ปล่อยให้กลับบ้าน

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังวิกฤติ หลังจากแรงงานผิดกฎหมาย (ผีน้อย) จากประเทศเกาหลีใต้เริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่วิกฤติเรื่องการระบาดของไวรัสฯรองจากจีน มีผู้ป่วยทะลุ 7,000 แล้ว

ภาพจากอีจัน
ล่าสุดวันนี้ (8 มี.ค. 2563) นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการเฝ้าระวังและสังเกตการ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน ,เกาหลีใต้, อิหร่าน และอิตาลี กรณีที่มีคนไทย ที่เป็นลูกหลานชาวจังหวัดมุกดาหารกลับมาจาก 4 ประเทศ จะต้องถูกดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง 14 วัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ซึ่งคนที่กลับเข้ามาต้องถือว่ายังไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัส แต่ในระยะความปลอดภัยเราต้องกักกันตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ในระหว่างนี้ทางแพทย์ พยาบาล จะเฝ้าตรวจดูอาการ ภายใน 14 วันถ้าไม่มีอาการใด ๆ ก็จะปลอดภัย และให้กลับบ้านได้ หากมีไข้ก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการ ที่ทางรัฐบาลสั่งการทุกจังหวัด ให้มีการจัดตั้งสถานที่สำหรับเฝ้าระวัง และสังเกตการ

ภาพจากอีจัน


จังหวัดมุกดาหาร ได้พิจารณาใช้อาคารรวมใจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บ้านดานคำ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร เป็นสถานที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตการ ซึ่งอาคารดังกล่าวอยู่ห่างจากชุมชน เป็นอาคาร 2 ชั้น สามารถแบ่งแยกสัดส่วนชายหญิงได้ชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิด อากาศถ่ายเทสะดวก โดยจังหวัดมุกดาหาร จะจัดเจ้าหน้าที่ และบุคลากรสาธารณสุข ทีมแพทย์เข้าตรวจ ดูแลผู้ที่จะต้องเข้าเกณฑ์การควบคุมเฝ้าระวัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหาร

ภาพจากอีจัน


ทั้งนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 จะไม่ล่องลอยไปในอากาศ และไม่มีสัตว์เป็นพาหะนำโรค การจะติดเชื้อจะต้องติดจากผู้ที่เป็นโรคที่อยู่ใกล้กันไม่เกิน 1 เมตร และมีการไอ จามใส่กัน หรือมีการสัมผัสสารคัดหลั่ง ของผู้ติดเชื้อเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ความร่วมมือและความเข้าใจของคนไทย จะต้องไม่ตื่นตระหนก ไม่เชื่อข่าวลวง และมีการป้องกันตัวเองด้วยการ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อจำเป็นต้องเข้าไปในที่ชุมชน ขอให้ประชาชนมั่นใจระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขของไทย เราจะได้ปลอดเชื้อและปลอดจากการระบาดของโรคนี้