ศาลอาญาฯ เลื่อนตรวจพยานหลักฐาน คดีแชร์แม่มณี

ศาลอาญาฯ รัชดา เลื่อนตรวจพยานหลักฐาน แก๊งแชร์แม่มณี เนื่องจากหลักฐานโจทก์มีจำนวนมาก

วันนี้ (9 มี.ค.63) ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีแชร์แม่มณี ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วันทนีย์ หรือเดียร์ อายุ 30 ปี ชาว จ.อุดรธานี เจ้าของวงแชร์แม่มณีพร้อมพวกรวม 9 คน ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพรก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และให้จำเลยที่ 1-9 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย 2,533 คน ซึ่งจำเลยที่ 1-9 ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ขอต่อสู้คดี

โดย อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 63 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 ต.ค.63 น.ส.วันทนีย์ (เดียร์) เจ้าของวงแชร์แม่มณี และพวกได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศให้ประชาชนร่วมออมเงินและร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษ ซึ่งมีแผนการตลาดหรือรูปแบบการลงทุน จัดแบ่งออกเป็นวงแชร์ ลงทุนวงละ 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาทต่อวง เมื่อครบกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ลงทุนหรือวันที่ฝากเงินมายังบัญชีที่พวกจำเลยแจ้ง ผู้ลงทุนจะได้รับเงินที่ลงทุนพร้อมผลตอบแทนกลับไป แต่ความจริงแล้วจำเลยไม่ได้จัดให้มีการออมเงินหรือร่วมลงทุนโดยได้รับผลตอบแทนมากกว่าปกติดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นอุบายให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองจากประชาชนผู้ถูกหลอกลวงเท่านั้น

ภายหลังกระทำความผิดแล้ว จำเลยทั้ง 9 คน อ้างกับประชาชนว่าจะได้รับผลตอบแทนมากกว่าปกติเป็นพิเศษดังกล่าว ซึ่งแผนการตลาดหรือการลงทุนแต่ละแผนที่จำเลยทั้งหมดอ้างจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตั้งแต่อัตราร้อยละ 1,116 – 3,040.45 ต่อปีนั้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้ อันเป็นความเท็จ ทั้งที่ความจริงแล้วพวกจำเลยทั้งหมดไม่สามารถจ่ายผลประโยชน์ในอัตราดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนได้

โดยพวกจำเลยจะนำเงินที่ได้จากผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ มาจ่ายเป็นผลประโยชน์หมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนรายก่อน แล้วเมื่อไม่มีผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ร่วมลงทุนเพิ่ม ก็ไม่สามารถได้รับผลตอบแทนและเงินร่วมลงทุนกลับคืน ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินให้กับพวกจำเลยทั้ง 9 ไปรวมทั้งสิ้น 1,376,215,359.74 บาท

ในวันนี้ (9 มี.ค.63) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้ง 9 คน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง มาเพื่อตรวจพยานหลักฐาน

อย่างไรก็ตาม พนักงานอัยการโจทก์ได้แถลงต่อศาลว่าเนื่องจากคดีนี้มีพยานหลักฐานเป็นเอกสารจำนวนมาก จึงไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมาให้จำเลยและทนายความจำเลยตรวจสอบหลักฐานได้ จึงขอเลื่อนนัดออกไปก่อน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นควรอนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานโจทก์-จำเลยอีกครั้ง ในวันที่ 25 พ.ค. 63 นี้ เวลา 09.30 น.