ปกป้องประชาชนทุกทาง หลังวิกฤติโควิด-19 ทั่วโลกยังน่าเป็นห่วง
ล่าสุดวานนี้ (9 มี.ค. 2563) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า
ซาอุดิอาระเบียสั่งห้ามพลเมืองและผู้อยู่อาศัยในประเทศ เดินทางออกไปยัง 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คูเวต บาห์เรน, เลบานอน, ซีเรีย, เกาหลีใต้ ,อียิปต์, อิตาลี ,และอิรัก อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 คำสั่งดังกล่าวยังรวมถึงการสั่งห้ามผู้คนจากทั้ง 9 ประเทศเข้ามายังซาอุดิอาระเบีย และผู้ติดอยู่ที่นั่นที่ยังไม่ผ่านช่วงกักตัว 14 วันด้วย
ภาพจากอีจัน
สำนักข่าวซาอุดิอาระเบียรายงานว่า แถลงการณ์ของกระทรวงกิจการภายในซาอุดิอาระเบียได้ประกาศเน้นย้ำถึงการระงับเที่ยวบินและรอบเรือทั้งหมดระหว่างซาอุดิอาระเบียกับ 9 ประเทศดังกล่าว โดยระบุเหตุผลว่าเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและรับรองความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยทั้งหมดการตัดสินใจครั้งนี้เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า ซึ่งไม่รวมถึงการอพยพ การขนส่ง และการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยทางกระทรวงกิจการภายในและกระทรวงสาธารณสุขจะประสานงานกันเพื่อจัดการกับกรณีพิเศษและกรณีด้านมนุษยธรรมเป็นรายๆ ไป
ในวันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของซาอุดิอาระเบียยังประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสยืนยันผลใหม่ 4 รายโดยผู้ป่วยรายแรกเป็นประชาชนที่มีประวัติติดต่อกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลก่อนหน้านี้ในเขตอัลกาติฟ (Al-Qatif) ซึ่งขณะนี้ได้รับการดูแลในห้องแยกโรคของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตอัลกาติฟ Al-Qatif
ส่วนรายที่สองและสามเป็นหญิงชาวบาห์เรนที่มาจากอิรักและกำลังจะเดินทางกลับไปยังบาห์เรน แต่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อเสียก่อนจึงถูกกักตัวไว้ในโรงพยาบาลเขตเดียวกัน
สำหรับรายที่สี่เป็นผู้อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ที่เดินทางไปยังฟิลิปปินส์และอิตาลี ก่อนมาถึงซาอุดิอาระเบีย ซึ่งถูกย้ายไปรักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงริยาด สถิติล่าสุดระบุว่า ซาอุดิอาระเบียมีผู้ป่วยยืนยันผลทั้งหมด 15 ราย