บรรยากาศในประเทศอิตาลี หลังปิดยับยั้งโควิด-19

‘วันแรกของการปิดเมือง’ บันทึกจากชาวอิตาลี หลังรัฐบาลประกาศปิดเมือง เพื่อหยุดการเผยแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

(10 มี.ค.63) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ที่เมืองปาโดวา ประเทศอิตาลี รัฐบาลอิตาลีประกาศกฤษฎีกา สั่งปิดเมืองและแคว้นทุกแห่งในประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. จนถึงวันที่ 3 เม.ย. เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าวิถีชีวิตของประชาชนภายในเมืองที่ถูกปิดนั้นเป็นอย่างไร  เฟเดริโก ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองปาโดวา ทางตอนเหนือของอิตาลี เล่าเรื่องราวว่า “หลังรัฐบาลสั่งปิดประเทศทุกอย่างยังเป็นปกติเหมือนกับทุกๆ วัน ตอนที่ผมใส่หน้ากากอนามัย และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปธนาคารเมื่อเวลา 8.50 น. คนขับแท็กซี่เป็นผู้หญิงมีเสน่ห์คนหนึ่ง เธอบอกผมว่า การจราจรในวันนี้เบาบางกว่าเมื่อวาน และเธอประหลาดใจที่เจอรถติดบางจุดบนทางหลวงปาโดวา-โบโลญญา

ผมสงสัยเรื่องข้อจำกัดใหม่ด้านการเดินทาง เลยถามเธอว่า สมมติผมขอให้เธอขับพาไปส่งที่สนามบินเวนิสได้หรือไม่ เธอตอบว่า ได้ แต่คุณต้องกรอกใบรับรองที่ยืนยันว่าคุณต้องเดินทางไปทำงาน หรือมีเหตุฉุกเฉินจำเป็น และอาจมีตำรวจโบกให้เราจอดเพื่อถามว่าเราจะไปไหน

สิ่งที่น่าแปลกใจคือคนขับรถแท็กซี่คนที่สองที่ผมเจอไม่รู้กฎเหล่านี้ด้วยซ้ำ ทำให้ผมเข้าใจว่าอาจต้องใช้เวลานานหน่อย กว่าพลเมืองทั่วไป อย่างเช่น คนขับรถบัส รถราง หรือรถแท็กซี่จะเข้าใจ “กฎใหม่ที่เข้มงวด” เหล่านี้

ระหว่างที่ผมเดินทางในเมือง ผมพบว่าผู้คนมากมายไม่ใส่หน้ากากอนามัย พอมาถึงธนาคาร ผมเข้าไปต่อแถวด้านหน้า พวกเขาปล่อยให้เราเข้าไปทีละคน และต้องเป็นคนที่นัดหมายไว้เท่านั้น ทุกๆ คนที่นั่นดูตกใจที่เห็นผมใส่หน้ากาก แล้วก็ถามผมว่าผมสบายดีหรือเปล่า ผมอธิบายให้พวกเขาฟังเล็กน้อย พวกเขาถึงจะเชื่อว่าผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

หลังทำธุระเสร็จ พนักงานธนาคารก็ถามว่าผมสนใจจะทำประกันสุขภาพหรือไม่ พวกเขาบอกว่าพวกเราอาจพึ่งพาบริการสาธารณะไม่ได้นักในช่วงนี้ ผมฟังเขาเงียบๆ จากนั้นก็เรียกแท็กซี่คันที่ 2

เมื่อกลับถึงบ้านผมก็โทรศัพท์หาร้านกาแฟ แต่ได้รับคำอธิบายว่า ร้านปิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ไปส่งกาแฟที่บ้านให้ได้ แค่โทรศัพท์มาสั่งตอนเช้า แล้วทางร้านจะขี่จักรยานไปส่งให้ ถ้าบ้านของคนสั่งไม่ห่างจากร้านมาก

ภาพจากอีจัน

โดยปกติแล้วชาวอิตาลีไม่ชอบสั่งกาแฟมาดื่มที่บ้าน พวกเราชอบนั่งรับลมข้างนอก ลิ้มรสกาแฟคู่ไปกับกินบรีออช (brioche) แล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์ กฎใหม่ไม่ได้สั่งปิดร้านกาแฟก็จริง แต่ลูกค้าจะต้องนั่งห่างกันในระยะ 1 เมตร

หลังจากออกจากบ้านมาไม่กี่ชั่วโมง ผมก็รับรู้ถึงความวิตกกังวลของบรรดาคนขับแท็กซี่และเจ้าของร้านกาแฟ พวกเขาตกลงจะปฏิบัติตามมาตรการต่อต้านเชื้อไวรัส แต่พวกเขาก็หวังว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือประชาชนมากกว่านี้ นอกจากนี้ ยังมีแรงงานอิสระจำนวนมากที่กังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตพวกเขา


เจ้าของร้านกาแฟบอกผมว่า “เราจะอยู่รอดได้อย่างไร ถ้าขายอะไรไม่ได้เลยเป็นเวลาหลายสัปดาห์ รัฐบาลต้องยืนยันว่ามีเงินช่วยเหลือพวกเราด้วย เราไม่ได้มีค่าจ้าง ‘มั่นคง’ เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐพลเรือน”

จากนั้นผมก็เดินทางไปยังร้านพิซซ่าประเภทสั่งกลับบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองปาโดวา เจ้าของร้านพิซซ่ารู้สึกท้อแท้มาก เธอเล่าว่ามีคนมาซื้อพิซซ่าน้อยมากตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ “วันนี้ฉันเห็นคนออกมาเดินบนถนนน้อยมาก และฉันก็รู้สึกไม่พอใจมาก รัฐบาลจะสั่งปิดเมืองก็ได้ แต่ต้องให้การสนับสนุนเราด้วย”

ช่วงนี้มีข่าวลือและสัญญาณบางอย่างที่ชี้ว่ารัฐบาลอาจสั่งปิดเมืองเข้มงวดขึ้นอีก รวมไปถึงปิดร้านรวงทุกแห่ง ยกเว้นร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ต

ภาพจากอีจัน

10 มี.ค.63 อัตติลีโอ ฟอนตานา (Attilio Fontana) ผู้นำแคว้นลอมบาร์ดีกระตุ้นให้มีการดำเนินมาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมขนส่งสาธารณะ ทั้งเส้นทางภายในและระหว่างแคว้น

หลังจากนั้น ผมยังเดินไปร้านขายยาอีก 5 แห่งในย่านใจกลางเมือง ไม่มีใครขายหน้ากากอนามัยหรือน้ำยาล้างมือเลยสักแห่ง มีพนักงานคนหนึ่งบอกว่าสินค้าเหล่านั้น “หมดเกลี้ยงมาหลายเดือนแล้ว”

ยอดผู้ติดเชื้อในแคว้นเวเนโต ซึ่งครอบคลุมเมืองปาโดวาของผม สูงถึง 856 ราย มีอาการสาหัส 67 ราย และเสียชีวิตแล้ว 26 ราย ตามสถิติวันที่ 10 มี.ค. สำหรับตอนนี้ ผู้คนในปาโดวายังพอทนรับกับมาตรการปิดเมืองได้ แต่ก็มีกระแสความไม่พอใจปรากฏให้เห็น แม้ว่าบรรยากาศโดยรวมจะตึงเครียด แต่ระหว่างเดินอยู่ในเมืองผมเห็นคู่รักวัยรุ่นเดินจับมือกัน นั่นทำให้ผมเห็นว่าบางครั้งกลุ่มคนอายุน้อยก็แสดง “การต่อต้าน” ต่อ “ข้อบังคับที่เย็นชา” ได้อย่างร้ายกาจ